เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่มีเสี่ยใหญ่ตบหน้าเด็กเสิร์ฟ เนื่องจากโมโหที่ถูกห้ามสูบบุหรี่ในห้องอาหารวีไอพี ซึ่งทางเด็กเสิร์ฟได้เข้าแจ้งความ พร้อมเผยว่าอีกฝ่ายเป็นผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดที่ราบสูง ดูแลด้านอุตสาหกรรม แล้วก็มีผู้ใหญ่หลายคนพยายามขอให้ตนยุติเรื่อง แต่ตนจะขอเดินหน้าเอาผิดถึงที่สุด

 

วันที่ 23 พ.ย. ได้มีการสอบถาม นายปริตา คชประภา อายุ 25 ปี พนักงานเสิร์ฟที่ถูกทำร้าย เล่าว่า ตนเข้าไปแจ้งเตือนคู่กรณีว่า ไม่สามารถสูบบุหรี่ในห้องอาหารได้ เพราะผิดกฎของโรงแรม หลังจากนั้นอีกฝั่งได้ถามกลับว่า ถ้าอย่างนั้นจะให้ไปสูบที่ไหน และห้องข้างๆ สามารถเปิดได้หรือไม่ ตนตอบไปว่าได้ แต่เป็นห้องแบบเดียวกับห้องนี้ จากนั้นเขาได้ตอบตนกลับมาว่า “กูรู้ กูไม่ได้โง่” ตอนนั้นรู้สึกตกใจ โดยผู้จัดการของห้องอาหาร เริ่มเห็นท่าจะไม่ดี จึงบอกให้ตนออกไปเอาน้ำข้างนอก

จากนั้นไม่นาน คู่กรณีจึงเดินตามออกมา แล้วต่อว่า หาว่าตนไปท้าทาย ตนจึงถามกลับไปว่าท้าทายอะไร หรือพูดจาอะไรไม่ดี แต่ก็ถูกตบเข้าที่หน้าข้างซ้ายอย่างแรง จนหูอื้อ เจ็บที่หน้า และรู้สึกอาย ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้บริหารได้เรียกผู้จัดการห้องอาหารมาสอบถามเหตุการณ์ และให้กำลังใจตนว่าทำถูกต้องแล้ว โดยตนได้ไปตรวจร่างกาย แพทย์ระบุว่าได้รับบาดเจ็บหน้าบวม ปวดฟันข้างซ้าย เนื่องจากแรงกระแทก ตอนถูกตบหน้า และหลังจากนั้นก็ไปแจ้งความ

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ผู้จัดการห้องอาหาร ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารระดับสูงของโรมแรม ให้มาแจ้งความนายสุรสีห์ ชายในคลิปตบพนักงาน ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ข่มขู่อวดอ้าง เนื่องจากหลังจากที่ทำร้ายร่างกายนายปณิตาแล้ว ได้เข้าไปเขวี้ยงทำลายแก้ว และมีทรัพย์สินภายในห้องอาหารเสียหาย เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของโรงแรม โดยทางตำรวจได้เตรียมออกหมายเรียกนายสุรสีห์ เป็นครั้งที่ 2 ในวันพฤหัสที่ 29 พ.ย. นี้  หากไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป

ด้าน นายสุรสีห์ แห่งศรีสุวรรณ ผอ.โครงการเขตอุตสาหกรรมนวนครสูงเนิน จ.นครราชสีมา ยืนยันว่า ตนคือชายที่อยู่ในคลิปตบหน้าสาวเสิร์ฟจริง แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นสาวประเภทสอง ซึ่งการตบหน้า ไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามสาวประเภทสองแต่อย่างใด โดยสาเหตุเนื่องจากอีกฝ่ายพูดจาไม่ดีก่อน ตนเชื่อว่าหลังจากนี้เขาจะคิดได้เอง แต่เน้นย้ำว่า ตนเองไม่ได้ฟิวส์ขาด กระทั่งควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคำพูด

นายสุรสีห์ ยืนยันอีกว่า ตนเองขอไม่ชี้แจงอะไรใดๆ ทั้งนั้น ใครทำอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจ ในวันที่เกิดเหตุ มีเพียงการถามไถ่เฉยๆ บางกฎเกณฑ์ของโรงแรมนั้น ตนก็ไม่ทราบมาก่อน พนักงานคนนี้ก็พูดจาไม่ดี ส่วนเรื่องที่ว่าตนเมานั้นไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้สูบบุหรี่ และตนยืนยันว่าตนไม่ผิด ความจริงเป็นอย่างไรมีพยานรับรู้เยอะมาก ตอนนี้คงปล่อยให้เด็กพูดฝ่ายเดียว สักวันเขาคงคิดได้