เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 20 พ.ย.61 เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต. ธนา ชูวงค์ รรท.ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส รรท.ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.ภาณุพงษ์ ศรจิตติ ผกก.สภ.แก่งกระจาน นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอแก่งกระจาน พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงจับกุมนายแฮชะ จีบ้ง อายุ 54 ปี และนายนพดล จีบ้ง อายุ 24 ปี พ่อลูก ชาวบ้านโป่งลึก ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ทั้งสองคนตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันใช้อาวุธปืนลูกซองยาวและปืนยาวไทยประดิษฐ์ ลักลอบยิงเลียงผา เพศเมียโตเต็มวัย ที่บริเวณห้วยผาน้อยเหนือบ้านโป่งลึกบางกลอย ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 2 กิโลเมตร เหตุเกิด เมื่อวันที่ 17 พ.ย. โดยมีหลักฐานในการก่อเหตุ ประกอบด้วย ปืนลูกซองเดี่ยวยาว ไม่ปรากฏเครื่องหมายทะเบียนและหมายเลข จำนวน 1 กระบอก ปืนแก๊ปเดี่ยวยาว ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนและเลขประจำปืน จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองจำนวน 19 นัด ลูกตะกั่ว 17 ลูก ดินปืน 1 ขวด แก็ป 1 ขวด และซากเลียงผาจำนวนหนึ่ง

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ก่อเหตุฆ่าเลียงผา สัตว์ป่าสงวน บริเวณห้วยผาน้อย เหนือบ้านโป่งลึก ไปประมาณ 7 กิโลเมตร ขณะที่กำลังแล่เนื้อเลียงผา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เดินลาดตระเวนไปเจอ แต่ระหว่างเข้าตรวจสอบจับกุม มีสุนัขจำนวนหนึ่งที่ติดตามผู้ต้องหาไปได้ส่งเสียงเห่า ทำให้ผู้ต้องหาทิ้งซากสัตว์ไว้แล้ววิ่งหลบหนี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาข่าวจนทราบบ้านผู้ต้องสงสัย จึงเข้าทำการตรวจค้น พบสุนัข 5 ตัว ลักษณะตรงตามสุนัขที่พบในวันเกิดเหตุ และเข้าตรวจค้นภายในบ้านผู้ต้องหา ได้พบกระสุนปืนขนาดเดียวกันกับที่พบตรงจุดเกิดเหตุ จากการผ่าพิสูจน์ซากเลียงผาพบว่า หัวกระสุนที่ฝังอยู่ในซากเลียงผา 3 ชิ้น เป็นชนิดเดียวกันกับที่ตรวจยึดได้ จึงเชื่อว่า นายแฮชะ ซึ่งเป็นพ่อ และนายนภดล ซึ่งเป็นลูก เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าเลียงผา จึงรวบรวมหลักฐานขอหมายศาล เพื่อดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนี และร่วมมือกับชาวบ้านและผู้นำชุมชน ทำการกดดันให้ผู้ต้องหามอบตัว กระทั่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ติดต่อผู้ใหญ่บ้านเข้ามอบตัว

นายแฮซะ จี้บ้ง สารภาพว่า ขณะที่ตนพร้อมลูกชายเข้าไปหาของป่า โดยมีหมาติดตามไปด้วย กระทั่งสุนัขของตนได้วิ่งต้อนเลียงผา มาทางทิศทางที่ตนกับลูกชายเดินอยู่ ตนจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเลียงผาจนล้ม จากนั้นลูกชายได้ใช้ปืนไทยประดิษฐ์ยิงซ้ำจนเลียงผาแน่นิ่ง แล้วลากเลียงผามาช่วยกันชำแหละบริเวณริมธาร แต่ขณะที่กำลังชำแหละเนื้อเลียงผา เจ้าหน้าที่ได้มาพบก่อน จึงวิ่งหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณต้นแม่น้ำเพชรบุรีทั้งวัน จนรุ่งขึ้นจึงแอบกลับเข้ามาในหมู่บ้านและพักอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้าน ก่อนที่จะติดต่อไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านโป่งลึก เพื่อขอเข้ามอบตัว

นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆ่าเลียงผาจริง แต่ทำเพื่อเอามาเป็นอาหาร ไม่ได้นำไปขายหรือมีใครสั่งจ้าง และยังอ้างว่าทำเป็นครั้งแรก 

โดยให้เหตุผลว่าลูกชายที่ออกไปทำงานยังสถานที่อื่นได้กลับมาบ้าน จึงพากันไปหาสัตว์ป่ามารับประทานกัน ทางพนักงานสอบสวนจะสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้สามารถสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาลได้เร็วขึ้น เนื่องจากประจักษ์พยานหลักฐานบ่งชี้ว่า ทั้งสองพ่อลูกซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้ก่อเหตุยิงและชำแหละเลียงผาจริง โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ สอดคล้องกับพยานหลักฐานทุกอย่าง ตามที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับ

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์, ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์เข้าไปเพื่อหาผลประโยชน์และยิงปืนในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเก็บของป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีเหตุอันควร