เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จุดชมวิวสูงสุดในไทย มหานคร สกายวอร์ค พร้อมวัดใจด้วยพื้นกระจกลอยฟ้า (คลิป)

“มหานครสกายวอล์ค” แห่งเมืองกรุง ได้เปิดให้เข้าชมกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีพิธีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คท่องเที่ยวระดับโลกแห่งใหม่ของไทย อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครฯ ที่มาพร้อมจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา สูงที่สุดในไทย ด้วยความสูงถึง 314 เมตร

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คิง เพาเวอร์ มหานคร กล่าวว่า มหานคร สกายวอล์ค เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญและความภาคภูมิใจของ คิง เพาเวอร์ บริษัทของคนไทย ที่พร้อมยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้านเดสติเนชั่นแห่งการท่องเที่ยวระดับโลก กับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ที่จะพลิกโฉมวงการท่องเที่ยวไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง

นายอัยยวัฒน์กล่าวอีกว่า “เราตั้งเป้าให้มหานคร สกายวอล์ค เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายภายในประเทศในระยะยาว พร้อมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์อันดีให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย และธุรกิจค้าปลีกในประเทศอย่างยั่งยืน ผมเชื่อว่า การท่องเที่ยวไม่เพียงแต่เป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดัน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่การสร้างความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืน และส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทยไปสู่สายตาประชาคมโลกอีกด้วย”

กายวอล์คตั้งอยู่บนชั้น 74, 75 และ 78 ของอาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร มีไฮไลต์อยู่ที่จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึง “พื้นกระจกลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ รูฟ ท็อป บาร์ (Rooftop Bar) ที่สูงที่สุดในประเทศ อาคารมีลิฟต์ความเร็วสูงที่มาพร้อมจอแอนิเมชันขนาดใหญ่ พาขึ้นไปยังจุดชมวิวชั้น 74 ภายในระยะเวลาเพียง 50 วินาที เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น. (รอบสุดท้ายเข้าเวลา 23.00 น.)

จุดชมวิวภายในอาคาร (ชั้น 74) ราคาบัตรผู้ใหญ่ 850 บาท, ราคาบัตร เด็ก/ผู้สูงอายุ 250 บาท จุดชมวิวภายในและภายนอกอาคาร (ชั้น 74 และชั้น 78) ราคาบัตรผู้ใหญ่ 1,050 บาท ราคาบัตร เด็ก/ผู้สูงอายุ 450 บาท และพิเศษฉลองช่วงเปิดตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน 2561 – 31 มกราคม 2562 ซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิวภายใน และภายนอกอาคารในราคา 765 บาทเท่านั้น

******************************

(ขอขอบคุณภาพจาก King Power Mahanakhon)