เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้ปกครองปลื้ม.. อาหารถาดหลุมศูนย์เด็กเล็กบ้านท่าแลหลา จ.สตูล ครบ 5 หมู่ ดูดีไฮโซสุด ๆ ชี้ น่ากินกว่าอาหารที่บ้าน เผยได้รับรางวัลมาตรฐานจากสุขาภิบาล 3 ปีซ้อน

          กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว ถึงเรื่องการจัดเตรียมอาหารถาดหลุม ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล หลังผู้ใช้ เฟซบุ๊ก Kannika Bunrod ซึ่งเป็นผู้ปกครองที่ส่งลูกไปเรียนที่ศูนย์แห่งนี้ โพสต์ภาพอาหารกลางวันสีสันหน้าตาน่าทาน อีกทั้งยังมีอาหารคาว ของหวาน และผลไม้ เรียกได้ว่าครบ 5 หมู่ ใน 1 มื้อ บ่งบอกถึงความใส่ใจของคุณครู ซึ่งทำให้ผู้ปกครองเชื่อมั่น และถึงกับเอ่ยปากว่า อาหารน่ากินกว่าที่บ้าน

ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา มีเด็กจำนวน 65 คน อายุ 4-5 ขวบ พร้อมด้วยครู 4 คน ซึ่งมีงบเตรียมอาหารและวัตถุดิบหัวละ 20 บาทเท่านั้น

ล่าสุด (14 พฤศจิกายน 2561) สปริงนิวส์ ได้ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา และได้สัมภาษณ์ ร.ต.หญิง กรรณิกา บุญรอด ผู้ปกครองที่โพสต์ภาพดังกล่าว ยอมรับว่า หน้าตาของอาหารน่าทานมาก เมนูมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่ละวันลูกจะมาเล่าให้ฟังว่าวันนี้ทานอะไร ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทางศูนย์ใส่ใจเรื่องอาหาร เนื่องจากลูกของตนเป็นคนทานยาก แต่ทางศูนย์ฯ ได้มีการทำผัก ผลไม้ ให้มีความน่ารักและน่าทาน ตนรู้สึกปลาบปลื้มและขอบคุณที่ดูแลลูกของตนและคนอื่นเป็นอย่างดี

ด้านนายปฐมพงษ์ จิ้วจวบ ผู้ปกครองอีกราย เผยว่า อาหารบางอย่างครอบครัวก็ไม่เคยทำให้เด็กทาน รวมทั้งผลไม้บางชนิด ซึ่งทางศูนย์ทำให้ลูกของตนทานข้าวหมดเกือบทุกครั้ง และยังทานผลไม้แปลก ๆ ที่เขาไม่เคยทานได้อีก ยิ่งทำให้ทางผู้ปกครองมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นถึงการปฏิบัติกับลูกของตนเสมือนลูกหลานของคุณครูเอง

ขณะที่ นางสำลี  ลัคนาวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง ระบุว่า หลังมีนโยบายให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กรายงานความคืบเกี่ยวกับการเตรียมอาหารทุกมื้อ ในงบหัวละ 20 บาท ก็พบว่าทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลาบริหารได้ดี มีการใช้วัตถุดิบในพื้นที่ในราคาที่เหมาะสม จนได้รับรางวัลมาตรฐานจากสุขาภิบาลระดับจังหวัด 3 ปีซ้อน

ด้าน น.ส.ฝาตีม๊ะ ชายา  หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา เปิดเผยว่า ตนดีใจที่ผู้ปกครองชื่นชอบ ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้ทำมานานกว่า 2 ปีแล้ว ตนเป็นคนชอบทำอาหารและตกแต่งให้สวยงาม จึงคิดว่าหากนำมาทำให้เด็ก ๆ คงจะทานง่ายขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ทานข้าวยาก รวมถึงคิดค้นเมนูหลากหลายไม่ซ้ำกันในแต่ละเดือน พร้อมส่งรายงานความเคลื่อนไหวให้ผู้ปกครองและผู้บริหารทราบทุกวัน โดยจะคำนึงถึงความสะอาด ใหม่สด สีสันที่สวยงามดึงดูด ซึ่งเด็ก ๆ จะได้ทานอาหารในสัดส่วนที่พอเหมาะ แต่หากเด็กคนไหนอยากขอเพิ่มก็สามารถเติมได้สบาย