เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

โรงพยาบาลพระราม 2 จัดแถลงข้อเท็จจริงอีกครั้งผ่านสื่อมวลชนโดยเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ ในวันที่ 9 พ.ย.61 ขณะที่ ช่อลัดดา เข้ามาขอรับการรักษาตัว อย่างละเอียดว่าในวันนั้น ช่อลัดดา เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่เนื่องด้วยไม่เคยมารักษาตัวที่นี่มาก่อน จึงวิ่งผ่านห้องฉุกเฉินไปบริเวณชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล แต่เมื่อพบเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายผู้ป่วย เจ้าหน้าที่จึงได้พา ช่อลัดดา ไปที่ห้องฉุกเฉินเมื่อถึงบริเวณห้องฉุกเฉินได้ร้องว่า “ช่วยด้วย ปวดแสบปวดร้อน” พยาบาลห้องฉุกเฉินจึงรีบทำการปฐมพยาบาลพร้อมวัดสัญญาณชีพ โดยผลความดันปกติ ชีพจรปกติ การหายใจปกติ ออกซิเจนในเลือดปกติ จากนั้นจึงได้โทรรายงานอาการและสัญญาณชีพจรกับ นพ.พีระ

นพ.พีระ จึงสั่งให้ทำแผลคนไข้และรับไว้เป็นผู้ป่วยใน เพื่อให้ยาระงับปวดและสังเกตอาการ แต่คนไข้ได้แจ้งปฏิเสธการรักษาเป็นผู้ป่วยใน พร้อมทั้งบอกความต้องการที่จะไปรักษาตามสิทธิประกันสังคมของตน ที่โรงพยาบาลบางมด และประสงค์ที่จะเดินทางไปเอง ระหว่างนั้นทางโรงพยาบาลพระราม 2 ไม่สามารถติดต่อผู้ตรวจการณ์โรงพยาบาลบางมดได้ จึงขอสายคุยกับพยาบาลห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลบางมด และแจ้งว่าจะมีคนไข้ดังกล่าวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

นพ.พีระ ชี้แจงต่อว่า ที่ประเมินให้ ช่อลัดดา เป็นผู้ป่วยที่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต โดยสังเกตจากบริเวณแผลที่ผิวหนังเป็นเพียงรอยแดง ไม่ใช่แผลพุพอง และยังมีแรงที่จะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อยู่ จึงได้พาคนไข้ไปขึ้นรถแท็คซี่เพื่อไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลบางมดตามสิทธิประกันสังคม พร้อมกับให้เงินน้องเตเต้ จำนวน 40 บาท เพราะเห็นว่าน้องมีเงินเพียง 50 บาท คาดว่าจะเพียงพอกับค่าแท็คซี่เมื่อถึงโรงพยาบาลปลายทาง แต่ไม่ทันการ ช่อลัดดา เสียชีวิตกลางทางก่อนถึงโรงพยาบาลบางมด


ทาง รพ.พระราม 2 ขอยืนยันว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดตามมาตรฐานโรงพยาบาลในการดูแลคนไข้ ส่วนการตายของ ช่อลัดดา คาดว่ามาจากสาเหตุอื่น จึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวต่อการสูญเสียครั้งนี้ด้วย