พ่อเมาเหล้า เจอลูกชายเมายาบ้า ฟาดด้วยหน้าสาม ดับอนาถ

ตร.กบินทร์บุรี ตามรวบหนุ่มวัย 32 ปี ใช้เขียงเป็นโล่ ไม้หน้าสามเป็นอาวุธ ฟาดพ่อตัวดับ หลังพ่อเมาสุราคว้าค้อนจะเข้าทำร้าย ยอมรับเสพยาบ้าเลยระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ พาไปกราบศพขอขมา หวิดโดนประชาทัณฑ์

เวลา 16.00 น. วันที่ 9 พ.ย. 61 พ.ต.อ.วันชัย พิทักษ์ตันสกุล ผกก.สภ.กบินทร์บุรี พ.ต.ท.สำเนาว์ กุยกระโทก รอง ผกก.(สส.) พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมบัติ วังวล รอง สว.(สอบสวน) และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นำตัวนายวิรัช กำลังรัมย์ หรืออ๊อด อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเลขที่  26 ม.12 บ้านหนองจิก ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังจากที่ก่อเหตุฆ่านายประสิทธิ์ กำลังรัมย์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 61 เวลาประมาณ 19.00 น. นายวิรัช กำลังรัมย์ หรืออ๊อด พร้อมด้วยนางประชวร กำลังรัมย์ อายุ 65 ปี ผู้เป็นแม่ กำลังนั่งรับประทานอาหารที่บ้านหลังดังกล่าว ต่อมาได้มีนายประสิทธิ์ กำลังรัมย์ อายุ 63 ปี ผู้เป็นพ่อ ได้เมาสุราและถือค้อนจะเข้าไปทำร้ายนายวิรัช ทำให้นายวิรัชต้องลุกหนีออกจากวงข้าว และใช้เขียงไม้ที่ทำครัวป้องกันตัว ก่อนจะมีการต่อสู้กัน ส่วนนางประชวร มารดา ได้เข้าห้ามปราบเพื่อไม่ให้นายวิรัชทำร้ายพ่อของตัวเอง

จากนั้นนายวิรัชได้หนีเข้าไปในห้อง แต่นายประสิทธิ์ พ่อ ได้ตามเข้าหาเรื่องอีก จนทำให้นายวิรัชเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ประกอบกับเสพยาบ้าเข้าไป จึงใช้ไม้หน้าสามที่วางไว้ข้างฝาบ้านกระหน่ำตีนายประสิทธิ์จนแน่นิ่งเลือดไหลอาบ ก่อนที่ทางญาติจะนำส่ง รพ.กบินทร์บุรี ส่วนวิรัช หรืออ๊อด หลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไป ต่อมานายประสิทธิ์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต

ด้านนายวิรัช หรืออ๊อด หลังจากก่อเหตุฆ่าพ่อของตัวเอง ได้หลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านญาติ เขตรอยต่ออำเภอประจันตคามและอำเภอกบินทร์บุรี จนกระทั่งมีผู้พบเห็นได้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามรวบตัวได้ในที่สุด ก่อนนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จากนั้นได้นำตัวนายวิรัช หรืออ๊อด ไปขอขมาศพพ่อของตัวเอง ที่บำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดสามัคคีสโมสร หรือวัดหนองจิก ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี พอไปถึงวัด ญาติพี่น้องทราบข่าวต่างมารอ และกรูกันเข้ามาเพื่อจะรุมประชาทัณฑ์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าคุ้มกัน หลังจากที่ขอขมาจุดธูปขอโทษพ่อของตัวเองที่หน้าศพเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รีบคุมตัวออกจากวัดทันที นำตัวไปสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหา “ทำร้ายบุพการีจนถึงแก่ความตาย”