สภ.ห้วยคต ได้เชิญตัว นายสุริยันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี มาสอบปากคำที่ สภ.ห้วยคต หลังครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนดังกล่าว เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.จรูญ ตรงกลาง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยคต ว่า น.ส.เอ ถูกนายสุริยันต์ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ข่มขืนกระทำชำเรา
ซึ่ง น.ส.เอ ให้การกับตำรวจว่า เมื่อปี 58 ตนพร้อมแม่ และ นายสุริยันต์ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ได้ย้ายจาก จ.ปทุมธานี มาเปิดร้านขายของชำใน อ.ห้วยคต ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายสุริยันต์ จากนั้นตนก็เข้าเรียนชั้น ม.2 ที่โรงเรียนดังกล่าว โดยมีแม่และนายสุริยันต์ คอยไปรับไปส่งทุกวัน
กระทั่งวันที่ 11 ส.ค.58 นายสุริยันต์ ได้มารับตนจากโรงเรียนตามปกติ พอถึงบ้านตนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะอาบน้ำ กลับถูกนายสุริยันต์ ฉุดกระชากเข้าไปปลุกปล้ำในห้องนอน ตนพยายามต่อสู้และตะโกนเรียกให้คนช่วยก็ไม่มีใครได้ยิน กระทั่งถูกข่มขืนจนสำเร็จความใคร่
หลังจากนั้นแม่ก็กลับมาจากขายของ และเห็นตนมีอาการซึมเศร้า ไม่มีเรี่ยวแรง จึงว่าไปทำอะไรมา ตนก็บอกว่าถูกนายสุริยันต์ ข่มขืน ซึ่งแม่ก็ตกใจมาก จึงไปถามนายสุริยันต์ ก็บอกว่าเป็นความจริง พร้อมกับพูดข่มขู่ตนและแม่ว่าห้ามไปบอกใคร และสัญญาจะไม่ทำอีก ด้วยความกลัวตนและแม่ก็เก็บเรื่องดังกล่าวมาตลอด
และหลังจากนั้นแม่เป็นคนไปรับส่งตนที่โรงเรียนตลอด เพราะไม่ไว้ใจนายสุริยันต์ จนช่วงหลังแม่เริ่มไว้ใจนายสุริยันต์เนื่องจากเริ่มทำดีมาตลอด จึงเริ่มฉวยโอกาสใช้เวลาหลังเลิกเรียนบอกกับแม่ว่าจะมาตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ พร้อมกับบอกว่าจะรับตนกลับจากโรงเรียนเอง ก่อนจะลงมือข่มขืนตนที่บ้าน โดยปล่อยให้แม่นั่งขายของอยู่คนเดียว และกระทำการลักษณะดังกล่าวเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ขณะที่แม่ของ น.ส.เอ กล่าวว่า ตนก็มานั่งเอะใจทำไมสามีถึงไปรับลูกที่โรงเรียนตลอด แต่ก็มานึกอีกทีเคยมารับสารภาพไปผิดแล้วคงจะไม่ทำอีก แต่ตนก็บอกลูกสาวตลอดว่าให้ระวังตัวแต่ก็มาถูกกระทำแบบนี้อีก พร้อมกับข่มขู่ลูกห้ามไปบอกใคร โดยที่ตนไม่เคยทราบเรื่องเลย นอกจากนี้นายสุริยันต์ ยังเคยขับรถเข้าไปโรงเรียนเพื่อดูลูกสาว และสั่งห้ามไปคบหากับเพื่อนผู้ชายคนอื่น รวมถึงยึดโทรศัพท์มือถือห้ามติดต่อใคร พอลูกเถียงขึ้นมาถูกนายสุริยันต์ดุด่า ตนก็ไม่กล้าทำอะไรได้แต่ก้มหน้าขายของทำเหมือนไม่ได้ยิน
กระทั่งเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้โรงเรียนแล้วเกิดอาการเครียด ไม่ยอมไปเข้าแถว และนั่งซึมอยู่ในห้องเรียน ครูประจำชั้นสอบถามก็ยังไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะพาไปพบเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม พอสอบถามพูดจนลูกสาวยอมเล่าเรื่องให้ฟัง เพราะทนกับพฤติกรรมของนายสุริยันไม่ไหว พร้อมกับขอนอนที่ห้องพักครูเพราะไม่อยากกลับบ้าน กระทั่งช่วงเย็นตนเห็นลูกสาวยังไม่กลับบ้าน จึงได้มาตามหาที่โรงเรียนจนได้รู้เรื่องดังกล่าว แต่ก็ยังไม่กล้าไปแจ้งความเพราะนายสุริยันต์ ข่มขู่ไว้ บางครั้งถึงขั้นตบตีด้วย และกลัวว่าจะถูกฆ่าทิ้งทั้งคู่
ทางเจ้าหน้าทีไ่ด้แจ้งข้อหา และนำตัวไปฝากขังพร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหาย ขณะเดียวกันนายสุริยันต์ ได้แจ้งความกลับ น.ส.เอ ว่าขโมยเงินในร้านอีกด้วย ส่วน น.ส.เอ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กของจังหวัดอุทัยธานี ได้รับตัวไปอยู่ด้วยเพื่อความปลอดภัย