เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 3 พ.ย.61 ร.ต.อ.สุวิทย์ ทองสุภาพ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์เก๋งหลุดโค้งเสียหลักชนประสานงากับรถพ่วงบรรทุก 18 ล้อ และรถจยย.มีผู้เสียชีวิตคารถ 1 ราย และบาดเจ็บ 1 รายบนถนนสายนครศรีธรรมราช-ปากพนัง บริเวณทางโค้งก่อนขึ้นสะพานบางจาก หมู่ 6 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก. พ.ต.ท.ศักรนันท์ เอี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และจนท.หน่วยกู้ภัยนคร ไปที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบภาพสยอง พบซากรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ สีเขียว ทะเบียน กน-8258 นครศรีธรรมราช สภาพรถถูกชนพังยุบยับเยินทั้งคันไม่มีชิ้นดี โดยมีร่างผู้เสียชีวิตติดในรถ 1 ราย ตรงเบาะที่นั่งคนขับ สอบสวนทราบผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.กุลธิรัตน์ ดังสะท้าน อายุ 39 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพกะโหลกศีรษะด้านซ้ายฉีกขาดกะโหลกศีรษะเปิดแผลฉกรรจ์ ข้อเท้าซ้ายผิดรูป ในชุดสวมเสื้อคอวีสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ ซึ่งจนท.กู้ภัยได้ช่วยกันงัดซากรถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาอย่างทุลักทุเล

ห่างไปเล็กน้อย พบรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อสีฟ้า บรรทุกปาล์มน้ำมัน ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียนพ่วงหน้า 82-4863 นครศรีธรรมราช และพ่วงท้าย ทะเบียน 82-82-4864 นครศรีธรรมราช กระจกหน้ารถเขียนข้อความ “คนลุ่มน้ำปากพนัง” ของ ช.ทองขาวลานปาล์ม ได้จอดเสียหลักริมถนน โดยมีนายสมควร ดำช่วย อายุ 45 ปี เป็นคนขับ และในบริเวณพงหญ้าริมถนนยังพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน คขง-918 นครศรีธรรมราช ล้มในพงหญ้า 1 คัน โดยพบว่าคนขับขี่รถจยย.คันดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บถูกส่ง รพ.มหาราช ก่อนหน้านี้ชื่อ นางวิมล หอมจันทร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 6 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ น.ส.กุลธิรัตน์ ผู้เสียชีวิตกำลังขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวเพียงลำพังคนเดียวจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้าไปยัง อ.ปากพนัง ด้วยความเร็วปกติ ซึ่งขณะนั้นได้ฝนตกหนักพื้นถนนเปียก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งก่อนขึ้นสะพานบางจากเล็กน้อย รถเก๋งได้เสียหลักลื่นแหกโค้งหมุนคว้างกลางถนน เป็นจังหวะพอดีที่ได้มีรถพ่วงบรรทุก 18 ล้อคันดังกล่าวที่มีนายสมควร ดำช่วย ขับลงสะพานสวนทางมาด้วยความเร็ว ไม่สามารถหยุดทันจึงพุ่งชนกับรถเก๋งคันดังกล่าว จนรถเก๋งพังยุบเกือบทั้งคันทำให้ น.ส.กุลธิรัตน์ ตายคาซากรถทันที และรถยนต์เก๋งยังไปเฉี่ยวรถจยย.ที่แล่นอยู่กลางถนนทำให้ นางวิมล ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ทั้งนี้ หลังจาก จนท.ได้ทำการชันสูตรพลิกศพและตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ได้มอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป และคุมตัวนายสมควร คนขับรถพ่วง 18 ล้อไปสอบสวนปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป