เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณี นางรัตนา ประหารภาพ อายุ 44 ปี ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์ จากเหตุคนร้ายปาก้อนหินใส่รถไฟขบวนที่ 86 ขณะรถไฟแล่นผ่านสถานีดอนทราย หมู่ 7 บ้านซังเขาขวาง ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังโดยสารรถไฟชั้น 3 จากสถานีบ้านส้อง จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าสถานีบางซื่อ กทม. ต่อมาได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ทับสะแก พร้อมเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุ

วันที่ 2 พฤศจิกายน นายเพ็ญเพชร นบนอบ อายุ 21 ปี ชาว อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช บุตรชายนางรัตนา ฯเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้นำมารดา เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. )ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อเจรจาเรียกร้องค่าเสียหายโดยขอให้ รฟท. เยียวยาค่ารักษาพยาบาล 1.2 แสนบาท เนื่องจากปกติมารดามีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ และที่ผ่านมาได้เดินทางไปพบแพทย์ หลังจากมีปัญหาคลื่นไส้ อาเจียนอย่างต่อเนื่อง โดยแพทย์ได้นัดตรวจบาดแผลที่หน้าอกซ้ำอีกครั้งในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เพื่อวินิจฉัยว่าจะต้องตัดนมด้านขวาทิ้งหรือไม่ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุมารดาได้รับบาดเจ็บ รฟท.ยังไม่ได้ให้การช่วยเหลือใดๆ ทั้งการรักษาพยาบาลและค่าเ้ดินทางไปแจ้งความชี้จุดเกิดเหตุ ส่วนค่าเสียหาย 1.2 แสนบาท เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะให้คำตอบภายใน 15 วัน แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้รับตามข้อเรียกร้องหรือไม่ เพราะต้องรอผลสรุปจากการประชุม

นายธีรศักดิ์ ฑีฆายุวัฒนา กำนัน ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก กล่าวว่า จากการประสานงานร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 อปพร. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ. .ทับสะแก มีชาวบ้านยืนยันว่าผู้ก่อเหตุปาหินใส่ขบวนรถไฟเป็นกลุ่มเด็กแว้นในพื้นที่มีการรวมตัวขี่รถจักรยานยนต์ในเวลากลางคืน คาดว่าก่อเหตุด้วยความคึกคะนองไม่เกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่แต่อย่างใด