เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หนุ่มเกิดอาการคุ้มคลั่งใช้มีดจี้รถทัวร์นครชัยแอร์ สายกรุงเทพ-บ้านแพ โดยผ่านมาเกือบ 10 กว่าชั่วโมงยังไม่เป็นผล เบื้องต้นผู้โดยสาร 15 คนปลอดภัย

วันที่ 28 ต.ค. 61 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุชายอาการผิดปกติทางสมอง ใช้มีดจี้รถบัสโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ – บ้านแพง ว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 61 เวลาประมาณ 20.40 น. ภ.จว.กาฬสินธ์ ได้รับแจ้งจาก สภ.สเด็จ ว่าเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ผู้โดยสาร บนรถบัสโดยสารประจำทาง ของบริษัทนครชัยแอร์ สายกรุงเทพ-บ้านแพง โดยเหตุเกิดตั้งแต่เวลา 21.00 น.

ทำให้คนขับต้องตัดสินใจนำรถเข้าไปขอความช่วยเหลือกับตำรวจที่ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจรจาก่อนที่คนร้ายที่จะยอมปล่อยตัวผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ แต่ยังถือมีดขังตัวเองอยู่ภายในรถ และให้ขับพาไปยังบ้านที่ อ.คำม่วงหลายรอบจนถึงรุ่งเช้า ก่อนที่จะมาจอดแน่นิ่งที่หน้าสภ.สมเด็จจนเวลาผ่านไปกว่า 14 ชั่วโมงคนร้ายก็ยังไม่ยอมลงจากรถ

โดยการเข้าเกลี่ยกล่อมหลังจากที่ตำรวจได้ใช้ความพยายามเจรจา และพาตัวญาติๆมาเกลี้ยกล่อม ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเช้า และได้จอดรถดับเครื่องแต่ปรากฏว่ายังไม่เป็นผล คนร้ายยังคงถือมีดและจ้องที่จะแทงทำร้ายเจ้าหน้าที่และผู้ที่เข้าใกล้ตลอดเวลา ตำรวจจึงตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาโยนเข้าไปในรถลูกที่ 1 เมื่อเวลา 11.30 น. ซึ่งแทนที่คนร้ายจะยอมมอบตัว แต่กลับถอดเสื้อออกและนำไปปิดหน้าไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตาลูกที่ 2 เวลา 12.00 น.และลูกที่ 3 ในคราวเดียวกัน แต่ก็ไม่ทำให้คนร้ายสะทกสะท้าน กลับมีท่าทีที่แข็งกร้าว ปากบ่นพรึมพรำว่าจะอาบน้ำเลือด ต่อมาเจ้าหน้าที่ต้องใช้แก๊สน้ำตาโยนเข้าไปเป็นลูกที่ 4 คนร้ายจึงมีท่าที่สงบลงแล้วนอนหมอบลงกับพื้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เห็นอย่างนั้นจึงคาดว่าคนร้ายหมดสติจึงเข้าไปนำตัวลงมา แต่ปรากฏว่าคนร้ายกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้งและเกิดการต่อสู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ต้องถอยหนีกระเจิงลงมาตั้งหลักใหม่

พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โชคดีที่คนขับตัดสินใจเข้าไปขอความช่วยเหลือกับตำรวจที่โรงพักสมเด็จ และเจ้าหน้าที่ได้เกลี้ยกล่อมคนร้ายจนยอมปล่อยตัวผู้โดยสารประมาณ 15 คนลงมา ซึ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย แต่กลับขังตนเองและถือมีดอยู่ในรถ เจ้าหน้าพยายามเจรจาและนำญาติมาเกลี้ยกล่อมอยู่นานหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่เป็นผล จึงจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีของตำรวจ โดยการใช้แก๊สน้ำตา แต่ต้องยึดหลักความปลอดภัยและไม่ใช้ความรุนแรง ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายนั้นขึ้นรถมา เพื่อที่จะเดินทางไปที่กรุงเทพฯ เพราะเคยขับรถแท็กซี่มาก่อน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่ามีอาการทางประสาท และรับยารักษาทางจิตเวช ซึ่งตำรวจจะต้องใช้ความพยายามในการนำตัวลงมาให้ได้