เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 25 ต.ค.นี้ คณะกรรมการจัดสรรเงินรางวัลหรือโบนัสประจำปี 2561 จะพิจารณาอัตราการจัดสรรเงินรางวัลประจำปี 2561 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) ได้รวบรวมคะแนนและจัดลำดับการให้เงินรางวัลของหน่วยงานต่างๆ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านงบประมาณ แผนงาน การปฏิบัติงานไปจนถึงการบริหาร โดยแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นผู้ประเมินตามเกณฑ์ชี้วัด ก่อนเสนอ ผู้ว่าฯกทม. ลงนามเห็นชอบแนวทางการจ่ายเงินโบนัสประจำปีให้กับข้าราชการและบุคลากรของ กทม. ที่ปัจจุบันมีอยู่ 90,000 คน แบ่งเป็นข้าราชการประมาณ 30,000 คน ข้าราชการครู 10,000 คน และเป็นลูกจ้างประมาณ 50,000 คน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า คณะกรรมการจัดสรรเงินรางวัลประจำปี จะเห็นชอบอัตราการจัดสรรเงินรางวัลประจำปี 2561 ในอัตรา 1.5 เท่าของเงินเดือน ขณะที่ลูกจ้างชั่วคราว จะได้รับอัตราจัดสรรเงินรางวัล 1 เท่าของเงินเดือน เนื่องจากลูกจ้างชั่วคราวมีภาระงานและความรับผิดชอบไม่เท่ากับข้าราชการและลูกจ้างประจำ อย่างไรก็ตามปี2561 นี้ กทม.จัดเก็บรายได้ 86,400 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการที่ได้ตั้งไว้  78,500 ล้านบาท คิดเป็น 10.11 เปอร์เซนต์ เป็นเงิน 7,932.73 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เงินในการจ่ายโบนัสประมาณ 2,500-2,700 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ทั้งนี้ เมื่อปี 2558 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีข้อทักท้วงไปยัง กทม.เกี่ยวกับนำเงินสะสมออกมาจ่ายโบนัสให้กับข้าราชการและบุคลากร เพราะตามหลักเกณฑ์การใช้เงินสะสมต้องเกิดจากกรณีฉุกเฉิน หรือมีความจำเป็น และกรณีเร่งด่วนเท่านั้น ทำให้กทม.ไม่สามารถนำเงินสะสมมาจ่ายได้ ดังนั้นคณะผู้บริหารกทม. จึงได้มอบหมายให้ทั้ง 50 สำนักงานเขต เร่งจัดเก็บภาษีอย่างเข้มงวดให้ได้ตามเป้า รวมทั้งจัดเก็บภาษีรายใหม่ให้ครบถ้วน เพื่อจะได้มีเงินเหลือจ่ายเป็นโบนัสให้กับข้าราชการและบุคลากรทุกคน

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า การจ่ายเงินโบนัสดังกล่าว เป็นเงินที่มาจากรายได้ของกทม. ซึ่งกทม.พยายามจ่ายเงินโบนัสให้กับข้าราชการและลูกจ้างของกทม.เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานต่อไป แต่การให้เงินโบนัสนั้น จะต้องมีการประเมินผลการทำงานของหน่วยงานและตัวบุคคล ทำให้แต่ละคนจะได้เงินโบนัสไม่เท่ากัน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุด