เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 17 ต.ค.61 เจ้าหน้าที่สืบสวน บก.น.7 สน.ตลิ่งชัน และ สืบสวน บก.ภ.จว.เพชรบุรี ร่วมกันจับกุมตัว นายศาสฑฎา บัวทอง หรือ ท็อป อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยที่ผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้,ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืนและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย,หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายศาสฑฎา ผู้ต้องหารายนี้ ได้ชักชวน น.ส.แพรว (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุตรสาวของนักสะสมพระเครื่องชื่อดังใน จ.ปทุมธานี ที่รู้จักกันผ่านโปรแกรมแชตในเฟซบุ๊ก ไปดื่มสุรากับที่สถานบันเทิงในท้องที่ สน.ตลิ่งชัน พอเมาได้ที่จากนั้นช่วงเที่ยงคืนวันที่ 6 ตุลาคม นายศาสฑฎา ก็ได้พา น.ส.แพรว ขึ้นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีเทาดำ ไม่ทราบทะเบียน ไปที่บ้านพักไม่ไกลจากสถานบันเทิง เพื่อขังเอาไว้ แล้วอีก 2 ชั่วโมงต่อมา นายศาสฑฎา ก็ย้อนกลับไปข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่

จากนั้น แทนที่ นายศาสฑฎา จะปล่อยเหยื่อหรือพาเหยื่อไปส่งที่บ้านพัก กลับยึดเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายเอาไว้ กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 6 ตุลาคม นายศาสฑฎา ได้พา น.ส.แพรว ขึ้นรถขับไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มข้างร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ย่านบางแวก ภาษีเจริญ แล้วยึดเงินที่กดได้ไป 500 บาท ซึ่ง น.ส.แพรว ได้ใช้โอกาสนี้วิ่งหนีจากตู้เอทีเอ็มมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี แล้วเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ตลิ่งชัน

โดยหลังจากที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน ขออำนาจศาลออกหมายจับแล้วนั้น นายศาสฑฎา ไหวตัวทัน หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยให้ญาติผู้ใหญ่ประสานมากับทางตำรวจว่าจะติดต่อขอเข้ามอบตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ยอมเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ ยืนยันว่าจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น