เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 3 ต.ค.61 เวลา 15.30 น. พล.ต.ต.ประสาน บุญเหมือน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อมพ.ต.อ.คมน์สรณ์ มาบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด แถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหา พร้อมยาเสพติดและครอบครองอาวุธปืนจำนวนมาก หลังขยายผลการจับกุมได้เมื่อเช้านี้

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากสภ.แหลมงอบ จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายหนึ่ง ได้ที่อำเภอแหลมงอบ จากนั้นได้ขยายผลการจับกุมมายังสภ.เมืองตราด จนสืบทราบว่า มียาเสพติดจำนวนหนึ่ง ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.ท่ากุ่ม อ.เมือง จ.ตราด จึงได้วางกำลังเข้าตรวจค้นจนสามารถจับกุมตัวนางสาววรรณวิสา(ใหม่) ประทุม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 3 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจสภ.แหลมงอบ จับกุม พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 7.62 กรัม อาวุธปืน 3 กระบอก เครื่องชั่ง 2 เครื่อง ถุงแบ่งบรรจุยาเสพติด 733 ถุง โพยสลากกินรวบ 1 แผ่น อุปกรณ์การเสพ 2 ชุด ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพัก

นอกจากนี้ยังจับกุมตัวนายสกันย์ (กัน) ศรีพิทักษ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/5 หมู่ 4 ต.ท่ากุม อ.เมือง จ.ตราด เจ้าของห้องเช่า พร้อมของกลางอาวุธปืน 5 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวน 10 เครื่อง อุปกรณ์การเสพ 1 ชุด เข็มขัดใส่กระสุนปืน 1 เส้น

นางสาววรรณวิสา ให้การกับตำรวจ ยอมรับว่าของกลางยาเสพติดและอุปกรณ์ทั้งหมด เป็นของตนเองและสามี และแบ่งใส่ซองจำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อในราคากรัมละ 3,000-3,500 บาท โดยสามีจะเป็นผู้ที่ส่งยาเสพติดเอง จนถูกตำรวจแหลมงอบจับกุม ซึ่งปัจจุบัน ตนเองตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว และเสพยาไอซ์ได้ด้วยขณะตั้งครรภ์

ขณะที่ นายสกันย์ ให้การว่า ไม่ทราบว่า นางสาววรรณวิสา ค้าเสพติด แต่ยอมรับเสพยาเสพติดจริง และส่วนอาวุธปืนยอมรับเป็นของตัวเอง 2 กระบอก แต่นอกเหนือจากนั้นไม่ใช่ของตัวเอง แต่เป็นของก๋งที่เสียชีวิตไปแล้ว

จากนั้นตำรวจได้ตั้งข้อหา นางสาววรรณวิสา(ใหม่) ประทุม จำนวน 4 ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย,มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,ลักลอบเล่นการพนันหวยใต้ดินโดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 3 ไอซ์โดยผิดกฎหมาย

ส่วนนายสกันย์ (กัน) ศรีพิทักษ์ โดน 3 ข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ไอซ์โดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์โดยผิดกฎหมาย