เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 26 ก.ย.ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าตนเองสนใจด้านการเมือง ว่า ในส่วนของตนนั้นต้องดูว่านายกฯ มีอะไรจะใช้เราหรือไม่ ถ้าไม่มีก็กลับบ้าน ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกฯ ในส่วนทหารและความมั่นคงนั้น ก็มีคนช่วยดูแลเยอะแยะ

เมื่อถามว่าหลายคนมีความกังวลว่าหากนายกฯลงเล่นการเมืองแล้ว ถ้าเจอแรงเสียดทานจะรับไหวนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าว ว่าก็คงไม่มีอะไรทำงานผ่านมา 4 ปี ก็โดนมาเยอะแล้ว คิดว่ามีความแข็งแกร่งพอ เพราะโดนมาเยอะและคงจะรับได้

เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่นายกฯ จะลงเล่นการเมือง เพื่อให้การเมืองเดินต่อไปข้างหน้าตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลชุดนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ประเทศก็จะเจริญขึ้นและอะไรต่างๆก็จะดีขึ้น แล้วทุกอย่างจะมีแบบแผนมากขึ้นตามที่เราได้วางเอาไว้

“ผมสนับสนุนนายกฯ เล่นการเมือง ส่วนจะสังกัดพรรคการเมืองใดนั้น ก็เป็นเรื่องของนายกฯเอง และผมก็ไม่มีความเป็นห่วงอะไรนายกฯ เพราะมั่นใจในตัวนายกฯ”

เมื่อถามว่า หากไม่มีอำนาจพิเศษแล้วลงไปเล่นการเมืองแบบประชาธิปไตย จะเกิดแรงประทะอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เป็นอะไรเพราะเป็นเรื่องของความจริง ส่วนที่จะตัดสินใจ ลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ตนไม่รู้เพราะยังไม่ได้คุยกัน

เมื่อถามว่า คิดว่าประชาชนจะตอบรับดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หากดูผลสำรวจของ โพล ก็คิดว่าน่าจะดีเพราะเป็นการสำรวจผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมา 4 ปี เมื่อนายกฯ ทำให้ประชาชนรัก และท่านอยากจพสานงานต่อ ก็ไม่เห็นมีอะไร ที่ท่านจะทำอีก 4 ปี

เมื่อถามว่า กลัวสิ่งที่ทำไว้จะเสียของหรือไม่พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราก็พูดไม่ได้ เพราะคนที่ตั้งใจทำไว้ก็กลังที่จะเสียของ และคนที่จะมาทต่อำก็ไม่รู้ว่าจะทำเสียหรือเปล่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนว่า จะให้การต้อนรับหรือเปล่าเพราะว่าประชาชนถือว่าสำคัญที่สุด และเป็นศูนย์กลางของทุกเรื่อง

เมื่อถามว่า ส่วนตัวของพล.อ.ประวิตร เองตัดสินใจลงเล่นการเมืองด้วยหรือไม่ถ้านายกฯชวนเล่นการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าก็บอกแล้วว่านายกฯมีอะไรมาใช้ตนก็ทำแต่ถ้าไม่มีอะไรตนก็จะกลับบ้าน หากนายกฯ ชวนชงเล่นการเมืองก็จะขอดูก่อน หากให้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองตนไม่อยากเป็น เพราะตนไม่อยากเล่นการเมือง แต่มาทำการเมืองให้ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ทางทางนายกรัฐมนตรีใช้ม. 44 ตั้งนายสนธยา คุณปลื้มเป็นนายกเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไรเพราะ นายสนธยา อยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มานาน นายกฯ เลยอยากให้มาปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว

เพราะตอนนี้ดูแล้วมันยังไม่ค่อยดี นายกฯท่านได้พิจารณาแล้วว่า นายสนธยา มีความเหมาะสมที่จะทำในตรงนี้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ รวมทั้งมีความรู้ในการพัฒนาเศรษฐกิจด้านตะวันออก(EEC) เป็นอย่างดี ส่วนจะเป็นการสะท้อนในเรื่องของพรรคพลังชลในอนาคตหรือไม่นั้น ก็ชัดอยู่แล้วว่าพรรคพลังชลก็มาทำงานกับทางรัฐบาลอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า แล้วจะให้ปรับใคร ซึ่งตนทายใจว่านายกฯ ไม่น่าจะมีการปรับครม. เพราะเวลาการทำงานเหลือน้อย รวมทั้งที่ผ่านมานายกฯ ก็พูดหลายครั้งแล้วว่าจะไม่มีการปรับครม. แล้วรัฐบาลก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรเสียหาย

เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐมนตรีที่มาเล่นการเมือง จำเป็นจะต้องลาออกจากรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาคงไปทำงานด้านธุรการ เพื่อเป็นการวางฟอร์มพรรค คิดว่าไม่น่าจะไปเล่นเรื่องของการเมือง ซึ่งคิดว่าเขาก็คงระมัดระวังตัว และรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไร

เมื่อถามว่า จะมีการเรียกประชุมครม.-คสช.และสนช. เพื่อทำแผนการเลือกตั้งตามคำสั่งคสช. ที่53/2560 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ต้องแต่เราจะมีการเชิญพรรคการเมืองเข้ามาพูดคุยอีกรอบหนึ่งแต่ยังไม่ระบุวันและระยะเวลา โดยมีนายกฯเป็นประธาน เพราะยังมีเวลาอีก3 เดือน. ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมกดปลดล็อคช่วงเดือนธันวาคม 61 เพื่อจะเป็นการกำหนดวันปลดล็อคว่าวันที่เท่าไร

เมื่อถามว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาทุกกระแส โจมตีประเด็น เกาะโต๊ะ ขอตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เขาพูดไปเอง”