เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีญาติของ ด.ญ จันทร์จิรา เลาหมู่ อายุ 12 ปี และ นางสาวกรชร ลำธารศศิธร อายุ 17 ปี ชาวเขาเผ่าลีซอ ที่ถูกรถกระบะชนเสียชีวิต แล้วหลบหนี ไปเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 61 โพสต์เรื่องราวลงสื่อโซเชียล เพื่อขอให้ช่วยติดตามหาตัวคนขับรถกระบะมารับผิดชอบนั้น

โดยเมื่อวานนี้ (16 ส.ค.61) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำญาติเข้าพบ พลตำรวจตรีภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อร้องขอความเป็นธรรม และเร่งรัดคดีดังกล่าว หลังพบว่า คดีไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร และสถานีตำรวจเจ้าของคดี ไม่ใส่ใจในการทำคดีเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นคดีรถชนธรรมดา และมีกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง แต่ผ่านไปหลายวันแล้ว ยังไม่สามารถติดตามตัวคนขับกระบะคู่กรณีมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้

ทั้งนี้ภายหลังจากรับเรื่องร้องเรียนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เร่งรัดคดีที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง รวมทั้งมีพยานและหลักฐาน เป็นภาพจากกล้องหน้ารถของรถยนต์ที่ขับตามรถกระบะในที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบหมายเลขทะเบียนรถกระบะคันดังกล่าว และชื่อผู้ครอบครองแล้ว

ล่าสุด วันนี้ (17 ส.ค.61)  มีรายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถกระบะคันดังกล่าว  ทราบชื่อผู้ครอบครอง พบว่าเป็นของนายตำรวจระดับผู้กำกับการ ยศพันตำรวจเอกนายหนึ่ง ที่สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งไม่ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยอมรับว่า เป็นเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว แต่ปฏิเสธว่าเป็นคนขับรถกระบะทับ 2 ผู้เสียชีวิต และอ้างว่าเป็นลูกชายที่นำรถไปขับ โดยขัดแย้งกับข้อมูลของพยานที่เห็นเหตุการณ์ที่ระบุว่า คนขับเป็นผู้ชายอายุประมาณ 50 ปี