จากกรณี นางสาวนภสร อายุ 18 ปี นักศึกษามหาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ ถูกคนร้ายบุกเข้ามาในบ้าน ชกท้อง จับมัดมือเอากาวหยอดตา ก่อนพยายามล่วงละเมิดทางเพศ ผู้เสียหายร้องขอจนเปลี่ยนใจ แต่เอาไปขังในห้องน้ำ พร้อมเอามือถือ ไอโฟน 7 พลัส หลบหนีไป เหตุเกิดภายในบ้าน ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ ควบคุมตัว นายมาโนชญ พี่ชายต่างบิดา ไปสอบเค้นนานกว่า 2 ชั่วโมง หลังภาพวงจรปิดที่บริเวณหน้าบ้านไม่พบบุคคลอื่นเข้ามาภายในบ้าน จนผู้ต้องหารับสารภาพ
และเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 15 ส.ค. 2561 ผู้เสียหาย วัย 18 ปี พร้อมมารดา ผู้เสียหาย เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม กับ ร.ต.อ.โรมรัน ศรีไกรภักดิ์ รอง สว.สอบสวนเจ้าของคดี เพื่อรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดีเอาผิดกับ นายมาโนชญ โดยมี พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ ร่วมสังเกตการณ์
โดย ผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์ว่า ระหว่างที่ตนเองนอนหลับตั้งแต่ตอนเที่ยงของวันเกิดเหตุ กระทั่งรู้สึกมีของเหลวร้อนๆ มาโดนที่ตาขวา จึงพยายามลืมตาและลุกขึ้นดู แต่ลุกไม่ได้ เพราะคนร้ายได้นั่งคร่อมที่บริเวณลำตัวของตน ก่อนเอาผ้านวมมาคลุมที่หัวตน ซึ่งคนร้ายนั้นพูดจาไม่รู้เรื่อง พูดเป็นคำๆ ลักษณะคล้ายคนงานต่างด้าว ซึ่งตนเองไม่คิดว่าจะเป็นพี่ชาย จากนั้นเขาถามหาเชือกตนเองบอกในบ้านไม่มีให้ไปเอาที่ห้องเก็บของ ตนเลยบอกว่าเอาสายชาร์จมัดแทนได้ไหม แต่อย่าทำร้ายตนเอง จะเอาทรัพย์สินอะไรเดียวตนพาไป
จากนั้นคนร้ายได้พาตนไปยังห้องนอน ก่อนนำผ้า สายชาร์จ รวมทั้งสายเนื้อชั้นในมามัดตนเองเพิ่มอีก จากนั้นเขาได้จับตนเข้าไปขังไว้ในห้องน้ำ ซึ่งอยู่ภายในห้องนอน และเดินเข้าออกภายในห้อง หลังจากนั้นไม่นานคนร้ายได้เข้ามาในห้องน้ำ แล้วสั่งให้ตนเองยืนแต่ตนเองยืนไม่ได้ เพราะถูกมัดขาอยู่ คนร้ายจึงแก้มัดให้ และให้ตนเองนั่งลงกับพื้นแล้วพยายามจะถอดกางเกงของตนออก ด้วยความตกใจตนจึงส่งเสียงร้องคนร้ายจึงหยุด พร้อมกับหยิบมือถือแล้ววิ่งหลบหนีไป จากนั้นตนเองรอจนไม่มีเสียงคนร้าย จึงแก้มัดตัวเองก่อนเดินออกมาแล้วพบกับพี่ชาย จึงได้เอามือถือของพี่ชายโทรหามารดา ซึ่งในตอนแรกคิดสงสัยว่าคนร้ายคือพี่ชายของตนเองเหมือนกัน เนื่องจากเสื้อที่คนร้ายใส่คล้ายที่แม่เคยซื้อให้พี่ชาย และกางเกงคนร้ายก็ดูคุ้นตาเหมือนที่พี่ชายใส่นอนประจำ
ด้านมารดา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายมาโนชญ ได้มาขออยู่อาศัยกับตนเพียง 2 อาทิตย์ เนื่องจากมาทำงานเกี่ยวกับตอกเสาเข็มในพื้นที่ และที่โครงการก่อสร้างไม่มีบ้านพักเลยให้มานอนพักที่บ้านกับเพื่อนคนอีกคน ตั้งแต่ที่มาอยู่ไม่มีพฤติกรรมส่อในทางที่ไม่ดีให้พบเห็นแต่อย่างใด แต่ก่อนหน้านี้เคยมีคนบอกว่า ลูกชายมีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว ซึ่งตนไม่เห็นกับตาเลยไม่เชื่อ จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้นกับลูกสาว ทำให้ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนพูดอะไรไม่ถูก
ส่วนการดำเนินคดีเอาผิดนั้น เพราะไม่อยากให้เขาไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก ด้านความสัมพันธ์ของแม่-ลูก ตนไม่ได้ตัดขาด แต่ให้ต่างคนต่างอยู่ เพราะเป็นตัวอันตรายกับครอบครัว ซึ่งถือว่าโชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ร้ายแรงและเกินเลยไปมากกว่านี้ ซึ่งครั้งก่อนหน้านี้ที่ นายมาโนช โดนจับเสพยา น้องสาวคนนี้ก็เป็นผู้เซ็นรับรองในการประกันตัวออกมา ซึ่งตัวนายมาโนช เองยังกล่าวว่า ติดหนี้บุญคุณน้องสาวอย่างมาก จึงไม่คาดคิดว่าจะมาก่อเหตุทำร้ายน้องสาวอย่างนี้ ส่วนอาการของบุตรสาวขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ถึงขั้นอันตรายจนถึงตาบอด เนื่องจากกาวได้เข้าถูกตาดำเพียงเล็กน้อย
ในด้านคดีทาง พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนเริ่มจากผู้เสียหายได้มีไหวพริบปฏิภาณที่สามารถจดจำลักษณะตำหนิต่างๆ ของคนร้ายได้ เมื่อรู้ตัวผู้ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ต้องหา จากการตรวจสอบจึงพบคราบกาวที่มือ ซึ่งสัมพันธ์กับพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้าย นอกจากนี้ ภาพวงจรปิดพบว่ามีเพียงผู้ต้องหาที่เดินเข้าออกบริเวณบ้านเพียงคนเดียว ซึ่งตัวบ้านมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว และไม่พบร่องรอยการงัดแงะบริเวณอื่น ซึ่งหลังจากนำตัวผู้ต้องหาไปสอบเค้นจนสารภาพว่าเป็นคนร้ายมี่ก่อเหตุในที่สุด พร้อมนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาโทรศัพท์มือถือของกลางซึ่งซุกซ่อนอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว
ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว และเสพสารเสพติดประเภทที่1(ยาบ้า) โดย นายมาโนชญ ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการกระทำผิดอื่นๆอีก พนักงานสอบสวนจะทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป