เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นายวรเชษฐ์ เอมเปีย หรือ เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล พร้อมด้วย นายจักรวาล ตั้งประกอบ นายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านสวน นายอำเภอเมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีเงินบริจาค “โครงการร้อยล้าน วิ่งด้วยใจ มอบให้โรงพยาบาลชลบุรี” อีกจำนวนหนึ่งยังไม่ส่งมอบให้กับโรงพยาบาล

เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ตามที่แฟนเพจดังได้นำข้อมูลของ สท.ท่านหนึ่งมาเปิดเผย ซึ่งจะเห็นว่า สท.รายดังกล่าวทราบเรื่องแล้ว แต่ตอนนี้ทุกคนก็รอลุ้นว่าจะนำเงินมาคืนให้กับโรงพยาบาลเมื่อใด โดยยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวกับเงินบริจาค เนื่องจากหากตนไปวิ่งที่ใดก็จะนำเงินทั้งหมดเข้าธนาคาร และให้ธนาคารเป็นผู้ส่งมอบเงินให้กับโรงพยาบาลเอง ส่วนตัวเป็นเพียงสะพานบุญเท่านั้น

สำหรับกรณีนี้ หลังจากตนวิ่งแล้วเสร็จ เงินทั้งหมดก็เข้าธนาคาร แต่ปรากฎว่า สท.รายนี้ ซึ่งอยู่ในฐานะผู้จัดการวิ่ง ได้ไปติดต่อธนาคารให้นำเงินบริจาคเข้าบัญชีตัวเอง ก่อนจะเงียบหายไป จนกระทั่งมีผู้ใหญ่บางท่านไปติดตามเงินส่วนนี้กลับมาได้ราว 2 แสนบาท

ตนเพียงต้องการให้ สท.รายนี้ออกมาเจรจากับโรงพยาบาล และนำเงินที่เหลือทั้งหมดมาคืน ส่วนตัวจะไม่เอาเรื่องทางกฎหมายเพราะสงสารครอบครัว สงสารลูกของงเขา ตนจึงพร้อมให้อภัย ถึงแม้ว่าเพิ่งมารู้จักกันตอนที่มีการติดต่อให้ตนมาวิ่ง อีกทั้ง สท.รายนี้ ไม่ได้มีพฤติกรรมที่จะหลอกลวงแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นคนสุภาพและพูดจาไพเราะ

อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบว่าเงินบริจาคยังไม่ถูกโอนให้โรงพยาบาล ตนได้พยามติดต่อไปหา สท.ท่านนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ส่วนใครที่เข้าใจว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงิน ตนเชื่อว่าเดี๋ยวเวลาจะทำให้เข้าใจถูกเอง แต่ขอให้ทุกคนกรองข่าวที่ได้รับและอ่านข่าวให้ละเอียด

นายจักรวาล ตั้งประกอบ นายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านสวน เปิดเผยว่า สท.รายนี้ เป็น สท.ตามตำแหน่งจริง และยังอยู่ในวาระ แต่ปกติ สท.ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมาทำงานที่เทศบาลทุกวัน จะมาในช่วงวันประชุมเท่านั้น ซึ่ง สท.ท่านนี้ก็จะเข้าประชุมบ้าง ไม่มาบ้าง ส่วนใหญ่จะใช่วันลากิจตามระเบียบ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถขอดูได้ที่เทศบาล

ทั้งนี้ การกระทำของ สท.รายดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว เทศบาลไม่เกี่ยวข้อง เป็นการจัดการวิ่งเอง อีกทั้งเทศบาลก็ไม่ได้รับรู้ด้วย ซึ่งตนทราบเพียงว่าการวิ่งจะวิ่งผ่านพื้นที่เทศบาลเท่านั้น อีกทั้งช่วงหลังเกิดเรื่อง ตนก็ไม่เจอตัว สท.ท่านนี้เลย และปกติก็ไม่เคยติดต่อกันนานนับปีอยู่แล้ว ต่างคนต่างทำหน้าที่เท่านั้น

นอกจากนี้ ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปที่บ้านของ นายจักกฤษ บุญเกิด หรือ สท.ต้น สมาชิกสภาเทศบาลบ้านสวน ซึ่งพบเป็นตึกแถวสูง 2 ชั้น 1 คูหา โดย นายโนรี พ่อ สท.ต้น เปิดเผยว่า ตัวเองไม่ค่อยทราบเรื่องเกี่ยวกับลูกชาย เพราะหลังจากที่ส่งเรียนหนังสือจบแล้ว ก็ปล่อยให้ลูกจัดการชีวิตตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมาปรึกษาว่ามีปัญหาอะไร อีกทั้งตนก็ไม่ทราบว่าลูกชายไปพักอยู่ที่ใด ซึ่งนาน ๆ ครั้งที่ลูกชายจะแวะมาที่บ้าน เพราะตนเป็นผู้เลี้ยงหลานให้

ตนเพิ่งทราบข่าวเกี่ยวกับลูกชายเมื่อวานที่ผ่านมา ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ยอมรับว่าเครียด กินข้าวไม่ลง ตนยังไม่ได้เจอลูกชายจึงไม่ได้สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่อยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย เชื่อว่าลูกน่าจะมีเหตุผลที่ทำลงไป และเชื่อว่าลูกจะนำเงินที่เหลือทั้งหมดไปคืนให้

นายโนรี เล่าด้วยว่า ตัวเองส่งลูกเรียนจบถึงระดับปริญญาโท อีกทั้งยังจบด้านกฎหมาย ส่วนตัวคิดว่าลูกต้องรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก เคยบอกกับลูกเสมอว่าไม่อยากให้เล่นการเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เปลืองตัว ด้วยกรณีนี้ตนคิดว่าอาจมีเรื่องการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากลูกเป็น สท.ฝ่ายค้าน

ขณะเดียวกับ นายจักกฤษ บุญเกิด หรือ สท.ต้น สมาชิกสภาเทศบาลบ้านสวน ได้เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ยังไม่ขอตอบรายละเอียดจำนวนเงินที่ยังไม่ได้มอบให้กับโรงพยาบาลชลบุรี เพียงแต่จะหาเงินจำนวนที่เหลือมามอบให้กับโรงพยาบาล โดยยังไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้เวลากี่วัน

ส่วนกรณีที่นายวรเชษฐ์ให้โอกาสตน ตนก็จะรับผิดชอบทำตามหน้าที่ เมื่อคืนเงินครบก็จะลาออกจากตำแหน่ง ยอมรับว่าปวดหัวและไม่สบายใจกับกระแสข่าวที่ออกมา ส่วนเรื่องกระแสข่าวอื่นๆ ที่ระบุว่าตนเคยมีปัญหาเรื่องโกงรับเหมาและจ่ายเช็คเด้ง ขอชี้แจงว่าเป็นเรื่องเก่า และไม่ขอกล่าวถึงอีก