จากกรณีที่ น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง อายุ 19 ปี เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตเนื่องจากกะโหลกศีรษะแตก สมองบวม ซึ่งนายสุรพล หรือ อ็อฟ ดาราคำ อายุ 23 ปี ชายที่ขับรถมาส่งน้องหญิงอ้างว่าผู้เสียชีวิตได้กระโดดลงจากรถไปเอง
ล่าสุด วันนี้ (14 ส.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยนายสุบิน ยาวิราช บิดาของน้องหญิง และครอบครัว ได้เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอบคุณที่ช่วยเร่งรัดดำเนินคดีจนสามารถติดตามคนร้ายที่หลบหนีมาดำเนินคดีในที่สุด
ขณะที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาดังนี้ 1.นายสุรพล หรือ อ๊อฟ คนขับรถเทรลเลอร์ ในความผิดฐาน หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่น
2.น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ หรือ เป็ด อายุ 18 ปี ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้มีการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อยู่ระหว่างฝากขังต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขณะนี้คดีความมีความคืบหน้าไป 90% แล้ว ซึ่งทางตำรวจมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคดีฆาตกรรม แต่หลักฐานจะเป็นอะไรนั้นยังไม่ขอเปิดเผยเพราะเป็นเรื่องของสำนวน ขณะที่กรณีเรื่องตำรวจที่ถูกสั่งย้ายยังไม่ได้กลับไปในพื้นที่เดิม โดยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่ตำรวจจะต้องดำเนินการอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องขอบคุณพ่อน้องหญิงรวมถึงนายอัจฉริยะที่ช่วยแจ้งเหตุ เพื่อให้ตำรวจทั่วประเทศได้เห็นว่าเมื่อมีเหตุให้รีบดำเนินการ ไม่ต้องรอให้มาร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเมื่อมาร้องเรียนแล้ว ตำรวจในพื้นที่จะต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และไม่ถือว่ากรณีเป็นบุญคุณเพราะตำรวจทุกนายกินภาษีประชาชน เป็นเงินเดือน เป็นหน้าที่อยู่แล้ว