รับแจ้งมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืน จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายบุรีรัมย์-สตึก บริเวณ 3 แยกโรงแรมเทพนคร พบกองเลือดขนาดใหญ่และรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ ข้างทาง คนเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ ได้นำส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนายเกริกชัย คืนรัมย์ อายุ 22ปี บ้านเลขที่ 26 ม.2 ต.อิสาน อ.เมืองบุรีรัมย์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองบริเวณหน้าอกหลายแห่งและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และนายจักรกฤษณ์ อาญาเมือง อายุ 18 ปี ถูกยิงบริเวณหน้าอกเช่นกันอาการสาหัส
จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า เห็นรถจักรยานยนต์จำนวน 3-5 คัน
ขี่ไล่ตามกันมาตั้งแต่บริเวณ 4 แยกแสงรุ้ง จนเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 4 นัด จนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มลงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลดังกล่าว
ต่อมา พ.ต.ท กัมพล วงษ์สงวน รองผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนได้เข้าจับกุมนายณัฐวัฒน์ เรืองประโคน อายุ 18 ปี นส.ชนนิกานต์ พะสุรัมย์ อายุ 20 ปี แฟนสาวที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ และนายกฤษณะเมธา ชาไธสง อายุ 17 ปี นายสิทธิพล กาบกลาง อายุ 18 ปี โดยจับกุมได้ในเขตพื้นที่อำเภอคูเมือง
พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนสั้นลูกซองไทยประดิษฐ์ อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ ขนาด.38 ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวถูกซุกซ่อนใว้ในกระท่อมกลางป่าอ้อย รถจักรยานยนต์ ฮ้อนด้าเวฟ สีเขียวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและ รถจักรยานยนต์ ฮ้อนด้าเวฟ สีชมพู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ใช้ในการก่อเหตุ
โดยนายกฤษณะเมธา ผู้ต้องหาเล่าว่ากลุ่มผู้ตายได้ใช้ขวดขว้างปาใส่กลุ่มของตนเองระหว่างที่จะเดินทางกลับบ้าน ตนเองจึงให้นายสิทธิพล ขับรถจักรยานยนต์โดยตนเองเป็นคนซ้อนท้าย และให้นายณัฐวัฒน์และนส.ชนนิกานต์ แฟนสาว ซ้อนรถจักรยานยนต์ตามประกบโดยวางแผนให้นส.ชนนิกานต์ เป็นคนถืออาวุธปืนทั้ง2กระบอกและเป็นคนบรรจุกระสุนให้เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้บอกให้รถจักรยานยนต์ของกลุ่มผู้ตายชะลอรถลงก่อนที่จะให้นส.ชนนิกานต์ ส่งอาวุธปืนให้แก่นายกฤษณะเมธา แล้วกระหน่ำยิงไปทั้งหมด4นัด จนกระสุนปืนถูกบริเวณหน้าอกของนายเกริกชัย คนขับรถจักรยานยนต์ และนายจักรกฤษณ์ คนซ้อน ทำให้รถเสียหลักล้มลงจากนั้นจึงแยกย้ายกันหลบหนีจนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหาหนัก คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ใว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน,ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันสมควร
