เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ล่าสุด วันที่ 12 สิงหาคม 2561 ได้สัมภาษณ์ นายสมร สมวงษ์ หรือ จ่อย คนขับรถเมล์สาย 115 คันที่ขับตีคู่กับรถเมล์สายเดียวกันในคลิป ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า … ตนไม่ได้ขับแข่งกับรถเมล์สาย 115 อีกคัน ตนขับมาตามหลัง แต่ขับขึ้นตีคู่และพยายามแซงเพื่อจะเข้ารับผู้โดยสาร แต่ขณะที่พยายามแซงก็พบว่า มอเตอร์ไซค์และร่างผู้ตายอยู่ใต้ท้องรถเมล์อีกคัน ตนตกใจและขับรถออกไป โดยไม่ได้ลงมาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะลางาน 3 วัน กระทั่งกลับมาทำงานเหมือนเดิม ยืนยันว่าไม่ได้แข่ง แค่ต้องการแซง

รายงานข่าวระบุว่า นายสมร เพิ่งมาขับรถสาย 115 แค่เพียงเดือนเศษ ก่อนหน้านี้เคยขับรถเมล์สายอื่นและมีอาการติดสุรา จนต้องไปรักษาตัวถึง 2 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานอีกครั้ง และขับรถรับผู้โดยสารมาแล้ว 1 เที่ยว ก่อนจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้สื่อข่าวระบุอีกว่า ระหว่างที่สัมภาษณ์นายสมร ก็พบว่ามีกลิ่นสุราคละคลุ้ง บางครั้งมีอาการปากสั่น มือสั่น เมื่อเดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีว่าเวลาสอบปากคำได้กลิ่นแอลกอฮอล์หรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า วันนี้นายสมร ไม่ได้ขับรถ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจแอลกอลฮอล์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุอีกว่า ในวันเกิดเหตุ การจราจรติดขัดมาก จึงต้องปล่อยรถไปก่อนจึงไม่ได้สอบปากคำ และขณะนี้ก็ยังไม่สามารถแจ้งข้อหากับคนขับรถเมล์ได้ เพราะไม่มีหลักฐานว่า รถเมล์คันใดขับชน หรือเป็นเหตุให้รถมอเตอร์ไซค์ของผู้ตายล้มคว่ำไปใต้ท้องรถ  อีกทั้งกล้องวงจรปิดต่าง ๆ ก็ไม่มี จุดที่มีก็เสีย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายสมจิตร หรือ ลุงจิตร โชเฟอร์รถเมล์สาย115 คันที่ทับร่างของผู้ตาย ระบุว่า ตอนนี้ตนเหมือนตกเป็นจำเลยของสังคม ทั้ง ๆ ที่วันเกิดเหตุตนขับมาปกติ แต่รถของนายสมร กลับพยายามขับตีคู่ และจะแซงหลายครั้งแต่รถติด ทำให้แซงไม่ได้ กระทั่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุ รถของตนอยู่เลนกลาง กำลังจะชะลอเข้าป้าย รถของนายสมร ก็ตีประกบข้าง และเปิดไฟเลี้ยวซ้าย ตอนนั้นตนรู้สึกเหมือนล้อทับอะไรบางอย่างจึงเบรก และก็พบว่าล้อหลังร่างผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุให้การกับตำรวจตลอด และยืนยันว่าไม่ได้ขับแข่งกัน แต่อีกฝ่ายจะขับแข่งกับตนหรือไม่ ตนไม่ทราบ ทุกอย่างก็เป็นไปตามภาพตามคลิปที่ปรากฏ

ด้านพ่อของ นายจตุพล เหนิหมัด หรือ ฮารุจ ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครขับรถทับลูกชายจนเสียชีวิต ตนอยากสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน พอสื่อนำเสนอข่าวไป ตำรวจก็โทร. แจ้งให้มาสอบปากคำ

ขณะที่ น.ส.สุไวบัส จารง ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีเป็นคนดี ขับรถระมัดระวังมาตลอด วันเกิดเหตุหากดูจากคลิปจะเห็นว่ามีรถเมล์อีกคันที่ตีคู่มาเปิดไฟเลี้ยว และไม่รู้ว่าพยายามแซงอีกคันจนต้องเบียดรถสามีตนหรือไม่ ผ่านมา 5 วันแล้ว ตำรวจก็ไม่สามารถระบุได้ว่าใครทำให้สามีตนต้องมาเสียชีวิต อยากขอความเป็นธรรมให้สามีด้วย
สำหรับผู้ตายนั้น พบว่ากำลังมองหาซื้อบ้านเพื่อเตรียมเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานให้กับภรรยา แต่ต้องมาเสียชีวิตก่อน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณปากซอยภูมิจิตร 4 ถนนพระราม 4 สอบถามวินมอเตอร์ไซค์ที่เห็นเหตุการณ์ ต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ป้ายรถประจำทางจุดนี้ รถเมล์มักเบียดแย่งกันเข้าป้ายรับผู้โดยสารบ่อยครั้งโดยไม่สนใจรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับมา รถเมล์จะอยู่เลนขวาสุดก็จะปาดมาเข้าป้าย ส่วนรถเมล์สองคันในวันเกิดเหตุ ไม่เห็นว่าคันใดเป็นคนชนผู้ตาย แต่เห็นว่า รถเบอร์ 4 ของนายสมร อยู่เลนขวาสุด และพยายามจะเข้าป้ายแซงรถเมล์สายเดียวกันอีกคัน ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ผู้ตาย เห็นอยู่ตรงกลางระหว่างรถเมล์สองคันพยายามจะออก แต่ก็มาเสียหลักล้มลงถูกรถอีกคันทับเสียชีวิต
รถเมล์ทับคน