เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 1 ส.ค. ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานกรณีอุทาหรณ์สำหรับคนชอบลองชอบกินของแปลก เมื่อเด็กชายชาวอเมริกันจากรัฐฟลอริดา ลองกินขนมสุดแนวที่เรียกว่า “ลมหายใจมังกร” (Dragon’s Breath) น้ำผลไม้แช่ไนโตรเจนเหลวที่เมื่ออมในปากความร้อนจากร่างหายจะทำให้ขนมระเหยกลายเป็นไอ สร้างความสนุกให้กับผู้รับประทาน แต่ไม่ใช่สำหรับหนุ่มน้อยคนนี้ที่พ่อแม่ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลเพราะเกิดอาการไอหนักต่อเนื่องจนหายใจไม่ออก โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือทันเวลาและรอดชีวิตมาได้

 

 

นางราเชล แมคเคนนีย์ จากเซนต์ออกัสติน โพสต์เรื่องราวของ ด.ช.จอห์นนี่ ลูกชาย ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กว่า ตนและสามีพาลูกๆ 2 คนไปที่ห้างสรรพสินค้าอเวนิวมอลล์ในเมืองแจ็กสันวิลล์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และก่อนเดินทางกลับบ้าน จอห์นนี่เห็นซุ้มขายขนมลมหายใจมังกรเลยอ้อนขอจะกิน ตนจึงซื้อให้ซึ่งลูกๆ ดูสนุกกับการกินขนมมาก และดูไม่มีอันตรายอะไร

แต่ราวๆ 10 นาทีระหว่างขับรถกลับบ้าน จอห์นนี่เริ่มไอหลายครั้ง และ 20 นาทีผ่านไปก็เริ่มไอถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนรุนแรงมากและทำให้จอห์นนี่หายใจติดขัด ตอนนั้นตนรู้สึกกระวนกระวายคิดว่าไม่มีทางที่พาลูกไปโรงพยาบาลทันโชคดีที่สามีฉุกคิดได้และขับรถไปยังหน่วยดับเพลิงที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการให้ยาขยายหลอดลม และน้ำเกลือ ก่อนเร่งส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแฟลกเลอร์

 

 

โดยจอห์นนี่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 วันก่อนแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ และหลังเกิดเหตุร้านจำหน่ายขนมลมหายใจมังกรที่อเวนิวมอลล์ได้ประกาศคำเตือนสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และหอบหืด จอห์นนี่ไม่ใช่ผู้บริโภคคนแรกที่มีปฏิกิริยาแพ้ขนมลมหายใจมังกร ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนต.ค.2560 มีเด็ก 2 คนได้รับบาดเจ็บหลังทานลมหายใจมังกรที่งานแสดงสินค้าเพนซาโคลา อินเตอร์สเตท รัฐฟลอริดา โดยหนึ่งในผู้บาดเจ็บมีอาการแผลไหหม้รุนแรงระดับ 2 บริเวณเพดานปาก และในเดือนส.ค.ปีเดียวกัน เด็กชายชาวเกาหลีถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเป็นการฉุกเฉิน หลังทานขนมชนิดเดียวกัน และแพทย์พบว่ามีรูกว้าง 5 เซนติเมตรในกระเพาพอาหารของเด็ก สาเหตุมาจากไนโตรเจนเหลวที่ค้างอยู่ในถ้วยขนมกัดกระเพาะ

 

 

ทั้งนี้ ไนโตรเจนเหลวไม่มีอันตรายต่อร่างกายโดยตรงต่อร่างกาย แต่การรับประทานเข้าไปจะมีความเสี่ยงทำให้เกิดการระคายเคือง หรือเลวร้ายถึงขั้นกัดเนื้อเยื่อ และทำให้กระเพาะอาหารทะลุได้

 

โพสต์โดย Racheal Richard McKenny เมื่อ วันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2018