เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่  22 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า กองทัพอิสราเอล หรือไอดีเอฟ ประสบความสำเร็จในการอพยพหน่วยบรรเทาสาธารณภัยในประเทศซีเรีย หรือหน่วยหมวกขาวประมาณ 800 คน หลังการสู้รบในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศทวีความรุนแรงจนอาจกระทบต่อความปลอดภัยของหน่วยกู้ภัยดังกล่าว เนื่องจากหน่วยนี้ติดอยู่กลางวงล้อมของกองทัพซีเรียซึ่งปิดล้อมพื้นที่ควบคุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

 

 

ภารกิจอพยพดังกล่าวเกิดขึ้นหลังไอดีเอฟได้รับคำขอจากฝ่ายสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป หรืออียู โดยทางไอดีเอฟนำเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเข้าไปรับหน่วยหมวกขาวที่เดินทางเข้ามายังที่ราบสูงโกลันทางตะวันตกของซีเรีย ก่อนจะนำส่งต่อไปยังประเทศจอร์แดน

 

 

โดยทางจอร์แดนแจ้งผ่านสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เพื่อให้อาสาสมัครกู้ภัยซีเรียทั้งหมดนี้ได้ไปตั้งรกรากในชาติยุโรป อาทิ อังกฤษ เยอรมนี และแคนาดา เพื่อเป็นการสดุดีต่อความกล้าหาญและเสียสละในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ

 

 

อย่างไรก็ตาม หน่วยหมวกขาวเคยยืนยันว่าพวกตนนั้นไม่มีสังกัดฝ่ายใดและทำงานเพื่อช่วยเหลือพลเรือนชาวซีเรียที่ตกทุกข์ได้ยากจากสงครามกลางเมืองแต่ถูกกล่าวหาจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ฝ่ายรัสเซียที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีอัสซาด ว่ามีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มสุดโต่ง แม้หน่วยดังกล่าวเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพเมื่อปี 2559