เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่าปาดคอและใช้มีดแทงลำตัว หน้าท้องสาวเสิร์ฟจนไส้ทะลัก รวมกว่า 10 แผล ที่หอพักแห่งหนึ่ง บริเวณ ถ.พาดวารี ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้นำหมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าสอบปากคำ นายไสว อายุ 46 ปี ที่เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์

โดย ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ แพทย์ได้ชันสูตรศพ พบว่าบาดแผลทำให้ตายคือแผลที่บริเวณลำคอ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และชุดสืบสวนลงพื้นที่ทั้งในพื้นที่ สภ.เมือง และ สภ.ใกล้เคียง เพื่อหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ

โดยทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งเป็นสามีของผู้ตายแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ได้มาที่ห้องเกิดเหตุแล้วพบชายอื่น และก่อนหน้านี้เคยทะเลาะกันรุนแรงจนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุมาแล้ว 1 ครั้ง

นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบกล้อง CCTV ตั้งแต่บ้านผู้ต้องหาจนถึงสถานที่ก่อเหตุ พบพยานหลักฐานสอดคล้องว่า คืนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ออกจากบ้านที่ ต.แม่พูล อ.ลับแล มาตามเส้นทางมุ่งหน้าที่เกิดเหตุก่อนเดินทางออกมา

และยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ คือที่ลำตัวผู้ต้องสงสัยมีรอยเล็บ และจากการส่งซอกเล็บของผู้ตายไปให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ พบดีเอ็นเอของผู้ต้องหา จึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดออกหมายจับ

ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวต่อไปว่า ผู้ต้องหาเคยติดคุก 4 ครั้ง ในคดียาเสพติด โดยนำเงินจากการค้ายาเสพติดมาดูแล ซื้อทองให้ผู้ตาย แต่ระยะหลังผู้ตายมีใจกับชายอื่น จึงน่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดความโกรธแค้นและก่อเหตุดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนขณะนี้ ผู้ต้องหา ยังให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานต่างๆ ที่ค่อนข้างชัดเจน เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ก็จะมีการสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

“พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อมชัดเจน โดยเฉพาะจักรยานยนต์ของผู้ต้องหา มีลักษณะพิเศษ คือเป็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างสำหรับใช้ขนทุเรียน ซึ่งใช้กันในพื้นที่ อ.ลับแล ขณะที่ตัวผู้ก่อเหตุมีลักษณะตัวเล็ก ผมสั้นเกรียน ซึ่งตรงกับพยานหลักฐาน พยานแวดล้อม

โดยตอนนี้ผู้ต้องหาคดีนี้ ต้องโทษคดีค้ายาเสพติด และได้รับการประกัน เมื่อไปก่อเหตุนายประกันจึงถอนประกันตัว เพราะกลัวหลบหนี

ทั้งนี้ ขอฝากถึงผู้ประกอบการหอพัก ในการดำเนินมาตรการความปลอดภัยตามกฎหมายหอพักอย่างเคร่งครัด และประชาชนหากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้โทรแจ้ง 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าดูแลช่วยเหลือได้ทันท่วงที

เพราะคดีนี้ผู้ตายได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจ กว่าจะพบเป็นศพก็ช้าเกินไปแล้ว” ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าว