เมาไม่ขับของจริง 2 หนุ่มกลับจากเที่ยวเมาหนัก ขับเก๋งส่ายไปมาก่อนจะจอดกลางถนน แล้วหลับคารถแบบไม่ได้สติ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีวัยรุ่นชาย 2 คน น่าจะเมาหนักนั่งหลับอยู่ในรถเก๋ง ซึ่งจอดอยู่กลางถนน ใกล้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ 

โดยที่รถยังติดเครื่อง ใส่เกียร์ และเท้าคนขับยังเหยียบเบรกคาไว้ จึงเกรงจะเกิดอันตรายกับผู้ที่สัญจรไปมา รวมทั้ง 2 คนที่หลับอยู่ในรถด้วย ซึ่งชาวบ้านช่วยกันปลุกอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงแต่ก็ไม่ตื่น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงก็พบชาย 2 คนอายุประมาณ 30 – 35 ปี นั่งหลับอยู่เบาะภายในรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเทาดำ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการปิดกุญแจและเปิดประตูรถออก เพราะสภาพอากาศก็ค่อนข้างร้อนมาก ก่อนจะช่วยกันเข็นรถไปแอบไว้ริมถนน เพื่อไม่ให้การจราจรติดขัดและเกิดอันตรายกับผู้สัญจร

จากนั้นได้พยายามเรียกปลุกทั้ง 2 คนให้ตื่น สักพักชายหนุ่มที่นั่งบนเบาะข้างคนขับก็ตกใจตื่นขึ้นและลงจากรถ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามกลับพูดจาไม่รู้เรื่องและเดินเซไปเซมาคล้ายคนเมา

ทั้งยังบอกกับเจ้าหน้าที่แบบหน้าตาเฉยว่าไม่ได้นั่งรถเก๋งคันดังกล่าวมา แต่มีเพื่อนขับรถจักรยานยนต์มาส่งทีหลัง ทั้งที่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านก็เห็นว่ากับตาว่าทั้งสองนั่งหลับอยู่ในรถแบบหัวชนกัน ทั้งยังอ้างว่าบ้านพักอยู่แถวนี้แต่ชาวบ้านยืนยันว่าไม่เคยเห็นหน้าเลย

จากนั้นก็มีพลเมืองดีนำน้ำเปล่าแช่เย็นมาให้ชายหนุ่มไปล้างหน้าให้กับเพื่อนที่ยังหลับไม่ได้สติอยู่ในรถ หลังจากใช้น้ำเย็นล้างหน้าและดื่มน้ำสักพักหนุ่มคนขับก็ตื่นและลงจากรถมาด้วยสีหน้าที่มึนๆ งงๆ ตาแดงก่ำ

เมื่อสอบถามว่ามาจากไหนจะไปไหน ชายคนขับก็ตอบว่ากลับจากเล่นดนตรีมา แต่จำไม่ได้ว่ามาจอดรถนอนกลางถนนได้ยังไง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงให้โทรศัพท์บอกญาติหรือเพื่อนให้มารับ หรือขับรถให้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการเมาจึงไม่อนุญาตให้ขับรถไปเอง

จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงบอกว่า เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับส่ายไปมา ก่อนจะจอดรถนิ่งอยู่กลางถนน จากนั้นจึงเดินไปเคาะกระจกเรียกเพื่อจะให้เลื่อนรถเพราะจอดขวางกลางถนน แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น จึงไปตามเพื่อนบ้านให้มาช่วยเรียกอีกแรงแต่ก็ไม่เป็นผล เกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ