เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 17 ก.ค. นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศกำหนดให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนหรือไขมันทรานส์ และอาหารที่มีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน หรือเดือนมกราคม 2562 ดังนั้นขอให้ประชาชนเลี่ยงอาหารประเภทหวาน – มัน – หรือเค็มจัด เพื่อหลีกเลี่ยงการรับไขมันทรานส์

สำหรับ “ไขมันทรานส์” คือไขมันที่ผ่านกระบวนการเพิ่มอะตอมไฮโดรเจน เข้าไปในโมเลกุล ซึ่งมีอยู่ในกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์ม, น้ำมันถั่วเหลือง หรือการแปรรูปให้มีลักษณะเป็นกึ่งของแข็ง เช่น มาร์การีน หรือเนยเทียม เนยขาว และครีมเทียม เพื่อช่วยให้เก็บรักษาไว้ได้นาน โดยไม่เหม็นหืน ไม่เป็นไข ทนความร้อนได้สูง และมีรสชาติใกล้เคียงกับไขมันจากสัตว์ แต่มีราคาที่ถูกกว่า จึงทำให้ผู้ประกอบกิจการอาหาร นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารมากมาย เพื่อลดต้นทุนการผลิต เช่น กลุ่มอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่ใช้เป็นน้ำมันสำหรับทอดไก่, มันฝรั่ง และโดนัท รวมทั้งในกิจการเบเกอรี่ ตลอดจนขนมขบเคี้ยว และวิปปิ้งครีม

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้น ให้ข้อมูลตรงกันว่า การบริโภคไขมันทรานส์ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายมีไขมันส่วนเกินเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อภาวะการทำงานของตับที่ผิดปกติ เนื่องจากไขมันทรานส์ ย่อยสลายได้ยากกว่าไขมันชนิดอื่น ที่สำคัญเป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันอุดตันในเส้นเลือด

ขณะที่ล่าสุด ทางผู้ประกอบการอาหารรายใหญ่ ทั้งฟาสต์ฟู้ดและขนมขบเคี้ยว ต่างออกมายืนยันว่า ผลิตภัณฑ์อาหารของตนเองนั้นปลอดภัย ไม่มีไขมันทรานส์