เปิดเรื่องท้าวความความวิบัติของวงการศัลยกรรมเกาหลีที่กลายเป็นค่านิยมผิดๆว่า ถ้าอยากศัลยกรรมต้องบินไปที่โน่น จนมีเหยื่อจากหมอที่ไม่มีความรับผิดชอบ มีเหยื่อสาวไทยรายแล้วรายเล่า เอาชีวิตไปทิ้ง บางคนบาดเจ็บปางตาย บางคนเสียชีวิตไปเลยก็มีเพราะความผิดพลาดในการทำศัลยกรรม บางทีเจอหมอไม่มีคุณภาพเหมือนที่เอเจนซี่และโรงพยาบาลโฆษณาไว้โดยมีการเอาดารา นางเอก นางร้าย นางแบบ เน็ตไอดอลมากมายไปทำศัลยกรรมฟรีเพื่อเป็นการโปรโมทชวนเชื่อ
ตีแพร่ความจริง หมอไทยเก่งๆดังๆเยอะมากๆ หมอเกาหลีบางคนยังบินมาเรียนศัลยกรรมกับหมอที่เมืองไทยเลยก่อนจะบินกลับไปรับงานที่เกาหลีแต่เพราะกระแสค่านิยม คนดัง ดารา ที่กลายมาเป็นภาพลักษณ์ของการโฆษณาแบบผิดๆ ทำให้เกิดหลงเชื่อมีเหยื่อหลายคนบินไปที่โน่น กลับมองข้ามหมอไทยทั้งที่ต้นตำรับการทำศัลยกรรมเก่งๆและคุณภาพหมอเก่งๆก็อยู่ที่นี่
ค่านิยมเห่อศัลยกรรมเกาหลีถ้าเจอหมอดีก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอหมอแย่ๆ โรงพยาบาลแย่ๆ ความซวยบังเกิด กลายเป็นหายนะชีวิต ที่เป็นข่าวรายแล้วรายเล่า ยกเคสนักร้องจากค่ายอาร์เอสคนล่าสุดที่เจอมากับตัว ว่าศัลยกรรมเกาหลีเลวร้ายแค่ไหน ถึงเวลาหรือยังที่คนไทยจะหันมามองเห็นความสำคัญของหมอเมืองไทย
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงเลยทีเดียวเมื่ออดีตนักร้องอาร์เอส เม-จีระนันท์ กิจประสาน ออกมาพูดเรื่องประสบการณ์ศัลยกรรมเต้านมที่เกาหลี โดยเจ้าตัวบอกว่าเกือบเอาชีวิตไม่รอดหลังจากเข้ารับการผ่าตัดอัพไซส์หน้าอก มีอาการติดเชื่อ เหตุทางโรงพยาบาลปล่อยให้หิ้วถุงระบายเลือดขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย โดยใน เฟซบุ๊ค May Jeeranan ได้เผยเรื่องราวทุกอย่างกับการทำศัลยกรรมครั้งนี้แบบหมดเปลือก “เมพร้อมที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องราวการทำศัลยกรรมเกาหลี ครั้งแรกในชีวิตของเม สาหัสปางตาย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้กับใครที่คิดจะไปทำศัลยกรรมที่นั่นให้ระวังไว้นะคะ #ศัลยกรรมเกาหลี #ศัลยกรรมทำพัง”
ซึ่ง เม บอกว่าหลังจากทำศัลยกรรมมาจากที่เกาหลีที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง การผ่าตัดผิดพลาด เลือดออกมากผิดปกติ และเธอบอกว่าทางโรงพยาบาลปกปิด เม หิ้วถุงระบายเลือดบินกลับเมืองไทย ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง นอกจากนี้ เม ยังได้เผยสภาพของเธอหลังการผ่าตัด เรียกว่าเป็นการบรรยายอย่างละเอียดเลยทีเดียว “หลังการผ่าตัดเมเริ่มมีอาการปวดแสบปวดร้อนภายในทรวงอก คล้ายมีน้ำกรดไหลแสบซ่านอยู่ภายในหน้าอก ลุกเดินแทบไม่ได้ เมถามคุณหมอถึงอาการผิดปกตินี้ คุณหมอบอกว่า เป็นอาการเจ็บปวดตามปกติหลังการผ่าตัด และมันจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง”
เขาให้เมนอนที่ รพ. 2 คืน แต่เมเจ็บปวดมาก ไม่สามารถลุกเดินได้เลย จึงขอคุณหมออยู่ต่ออีกคืน เป็น 3 คืน จากนั้นให้เมย้ายไปอยู่ที่โรงแรมข้างๆ รพ.ซึ่งคุณ…เตรียมไว้ให้ พยาบาลบอกให้คุณแม่ เอาเลือด เทออกจากถุงระบายเลือดทั้ง 2 ข้างทุกวัน”
“เมเจ็บปวดแสนสาหัสมาก ขยับเขยื้อนตัวแทบไม่ได้ จะลุกไปเข้าห้องน้ำ คุณแม่ต้องคอยอุ้มประคอง ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็ดตัวให้ เอเจนท์ ที่เมเสียเงินเพราะคิดว่าเค้าจะดูแลเป็นอย่างดี ก็มาเยี่ยมแค่ครั้งเดียวตอนออกจากห้องผ่าตัด ถ้าเมไม่มีคุณแม่มาด้วย แล้วเมจะทำยังไง จะประคองตัว เพื่อดื่มน้ำ ทานข้าวยังแทบไม่ไหว” ทั้งนี้ เม ได้บอกว่าประสบการณ์ทำศัลยกรรมครั้งนี้ของเธอขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคน โดยเธอบอกว่า “เมไม่ได้บอกว่า การทำศัลยกรรมไม่ดี หรือไม่ควรทำนะคะ แต่เมออกมาพูด เพื่อแชร์ประสบการณ์ในอีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง” เป็นกำลังใจให้กับ เม จีระนันท์ มีอาการหายเป็นปกติในเร็ววัน
ตามความเป็นจริงแล้ว คนที่พาไปหรือที่เรียกว่าเอเจนซี่นั้นก็ต้องรับผิดชอบเพราะเท่ากับมีความผิดฐานหลอกลวงผู้บริโภค นอกจากนั้น สำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. จะต้องดูแลคนไทยด้วยรวมถึงแพทย์สภาควรมีมาตรการในการรับมือหรือปกป้องอคนไทยในการทำศัลยกรรมแบบที่ผิดพลาดและผลร้ายที่ตามมาเพื่อไม่ให้โดยโดนหลอกลวงจากเอเจนซี่ศัลยกรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นเหมือนดอกเห็ดอันเกิดจากการเห็นแก่เม็ดเงินมหาศาลที่คนไทยแห่ไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีเยอะขึ้นเรื่อยๆ