เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เบลเยียมคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2018 ไปครองถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม หลังบดเอาชนะอังกฤษ 2-0 โดยได้ประตูจาก โธมัส มูนิเยร์ และ เอเด็น อาซาร์ ในเกมฟุตบอลโลก 2018 นัดชิงอันดับสาม วันที่ 14 มิถุนายน

สนาม :  เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม, เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก

เกมนัดชิงอันดับ 3 ของฟุตบอลโลกหนนี้ เป็นการเจอกันของสองทีมอกหักชวดเข้าชิงชนะเลิศ โดยทั้งสองทีมเอาจริง เพราะต้องการทำผลงานดีสุด โดยเฉพาะเบลเยี่ยม ที่เคยไปได้ไกลสุดคือการคว้าอันดับ 4 ในปี 1986 หลังแพ้ฝรั่งเศสในการชิงที่ 3 ด้านอังกฤษ หลังจากแชมป์โลกปี 1966 แล้วพวกเขาเคยทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับ 4 เช่นกันในปี 1990

 

 

โรเบร์โต้ มาร์ตีเนซ เทรนเนอร์ เบลเยี่ยม มีการปรับทัพแค่จุดเดียวคือส่ง ยูริ ทีเลมันส์ ลงแดนกลางคู่ อักเซล วิทเซล และได้ โธมัส เมอนิเย่ร์ พ้นแบนกลับมา ส่วนแนวรุก โรเมลู ลูกากู, เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ ลงครบ

 

 

 

อังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้ คีแรน ทริปเปียร์ หายเจ็บกลับมา แต่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ต้องหลีกทางใฟ้ ฟิล โจนส์ ประเดิมตัวจริงนัดแรก แดนกลาง รูเบน ลอฟตัส ชีค และ ฟาเบียน เดลฟ์ ลงตัวจริง แต่ แฮร์รี่ เคน ยังพร้อมล่าตาข่ายลุ้นดาวยิงรองเท้าทองคำ

 

เริ่มเกมมาเพียง 4 นาที เบลเยียมขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 โรเมลู ลูกกากู จ่ายให้ นาเซอร์ ชาดลี่ ทางกราบซ้าย ก่อนเปิดเข้าเขตโทษ โธมัส มูนิเย่ร์ สอดเข้ามาชาร์ทจ่อๆเข้าไป หลังจากนั้นยังเป็นเบลเยียมที่เปิดเกมบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว ก่อนจะมาได้ลุ้นอีกครั้งใน น.13 เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไปแฉลบแนวรับอังกฤษ แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยังปัดไว้ได้ น.23 สิงโตคำรามเกือบได้ประตูตีเสมอ แฮรี่ เคน ได้ยิงโล่งๆหน้าเขตโทษแต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย น.35 โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ แนวรับเบลเยียมได้ตวัดยิงกลับหลังในเขตโทษบอลข้ามคานไปนิดเดียว ทำให้จบครึ่งแรก เบลเยียม นำ 1-0

 

 

ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมผลัดรุกผลัดกันรับอย่างสนุก ก่อนที่ น.60 อังกฤษเกือบได้ประตูตีเสมอ เอริค ดายเออร์ หลุดเดี่ยวมาดวลกับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนตัดสินใจชิพบอลข้าม กูร์กตัวส์ ไปแล้ว แต่ โทบี้ อัลเดอร์เวเรลด์ วิ่งมาสกัดบอลก่อนจะถึงเส้นประตูได้อย่างหวุดหวิด น.74 อังกฤษได้ลุ้นต่อเนื่องจากจังหวะฟรีคิก คีแรน ทริปเปียร์ เปิดไปในเขตโทษ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ได้ขึ้นโหม่งแต่บอลเฉียดเสาออกไป น.80 เบลเยียมเกือบได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะสวนกลับเร็ว ดรีส์ เมอร์เท่นส์ เปิดไปเสาสองให้ โธมัส เมอนิเย่ร์ ยิงแบบไม่จับ แต่ไปติดเซฟ จอร์แดน  พิคฟอร์ด

 

 

อย่างไรก็ตาม น.82 เบลเยียม มาได้ประตูนำห่าง 2-0 เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายทะลุช่องให้ เอเด็น อาซาร์ หลุดเข้าไปยิงยัดเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เบลเยียม เฉือนเอาชนะ อังกฤษ 2-0 คว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2018 ไปครองถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมอีกด้วย

 

 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบลเยี่ยม : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – โทบี้ อัลเดอร์เวเรลด์, แวงซ็องต์ ก็องปานี, แยน แฟร์ต็องเก้น – โธมัส เมอนิเย่ร์, ยูริ ตีเลม็องส์ (มุสซ่า เดมเบเล่ น.78), อักเซิ่ล วิทเซล, นาเซอร์ ชาดลี่ (โธมัส แฟร์มาเล่น น.39) – เอเด็น อาซาร์, เควิน เดอ บรอยน์ – โรเมลู ลูกากู (ดรีส์ เมอร์เท่นส์ น.60)

อังกฤษ : จอร์แดน  พิคฟอร์ด – ฟิล โจนส์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์ – คีแรน ทริปเปียร์, ฟาเบียน เดลฟ์, เอริค ดายเออร์, รูเบน ลอฟตัส ชีค, แดนนี่ โรส (เจสซี่ ลินการ์ด น.46) – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (มาคัส แรชฟอร์ด น.46), แฮร์รี่ เคน

ผู้ตัดสิน :  อาลีเรซ่า ฟากานี่ (อิหร่าน)