เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากเหตุการณ์ทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่ 12 ชีวิตและโค้ชผู้ฝึกสอนอีก 1 ชีวิต รวม 13 ชีวิต ประสบภัยพิบัติติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ทั้งในประเทศและนักกู้ภัยนานาชาติต่างร่วมมือกันเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิต จนเป็นผลสำเร็จภายในระยะเวลา 17 วัน

และนอกเหนือจากผู้ร่วมปฏิบัติการกู้ภัยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ผู้เสียสละ” แล้ว ยังมีผู้ที่มีความเสียสละไม่แพ้กันนั่นก็คือชาวนาใน ต.โป่งงาม และ ต.โป่งผา อ.แม่สาย หลายสิบครัวเรือนได้ยกพื้นที่ไร่นารวมกว่า 225 ไร่ เป็นพื้นที่รับน้ำจำนวนมากที่ระบายออกมาจากถ้ำหลวงเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเด็กๆ ทั้ง 13 ชีวิตได้เป็นผลสำเร็จ ยอมให้น้ำท่วมข้าวในนาที่กำลังงอกงามและยังไม่ขอรับเงินค่าชดเชยจากทางการ นับเป็นเรื่องที่ดีต่อใจเรื่องหนึ่งในสังคมไทย

จากความเสียสละของชาวนาเหล่านี้ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 เครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาภาคเหนือ 8 สถาบันประกอบด้วย วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย, มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยแม่โจ้, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีล้านนา กว่า 100 คน ร่วมกับ เครือข่ายโรงเรียนชาวนา (สิงห์อาสา – เชียงราย)

นำโดย นางพรรณพิมล ปันคำ ปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดเชียงราย ได้นำต้นกล้าข้าวที่สามารถเพาะปลูกได้ในพื้นที่จำนวน 30 ไร่ มาช่วยกันลงแขกดำนาในพื้นที่นาของชาวนาบ้านหนองอ้อ หมู่ 2 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับความเสียหายจากการรับน้ำจำนวนมากจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จากภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่แม่สาย 13 ชีวิตออกจากถ้ำ อีกทั้งเพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนน้ำใจอันงดงามสำหรับการเสียสละอย่างใหญ่หลวงของชาวนาที่ยอมให้พื้นที่ข้าวของตนได้รับความเสียหายเพื่อให้ทั้ง 13 ชีวิตทีมหมูป่าปลอดภัย อีกทั้งสิงห์อาสายังได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าว 1000 กิโลกรัมแจกจ่ายให้กับชาวนาในพื้นที่

โดยมีนายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย และชาวนาร่วมรับมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวดังกล่าว หลังจากนั้นนายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย และ นางพรรณพิมล ปันคำ ปราชญ์ชาวบ้าน พร้อมด้วยนักศึกษาเครือข่ายสิงห์อาสาและเด็กนักเรียนในพื้นที่ที่อาสามาช่วยดำนาได้ลงไปช่วยดำนาร่วมกับชาวนาเจ้าของพื้นที่ในแปลงนาที่ได้รับความเสียหาย

นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากการสำรวจข้อมูลทั้งหมดของอำเภอแม่สายโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอ พบว่ามีพื้นที่นาได้รับความเสียหายจากการรับน้ำที่ระบายมาจากถ้ำหลวงทั้งหมด 7 หมู่บ้าน 4 ตำบล รวมเป็นพื้นที่นา 1,226 ไร่ เกษตรกรได้รับความเสียหายรวม 126 ราย เราได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทีมงานสิงห์อาสา รวมไปถึงน้องๆ นักศึกษาเครือข่ายสิงห์อาสา เข้ามาช่วยดำนาต้นกล้าข้าวที่บ้านหนองอ้อ ที่มีพื้นที่เสียหาย 200 กว่าไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 21 ราย

ที่ผ่านมาเกษตรกรเหล่านี้แจ้งไปยังอำเภอว่าไม่ขอรับความช่วยเหลือใดๆ และให้ภาคราชการไปช่วยเด็กออกจากถ้ำให้ได้ก่อน ส่วนความเสียหายในพื้นที่นาชาวบ้านจะเยียวยาจัดการกันเอง ถือว่าเป็นน้ำใจที่งดงามของชาวบ้านเหล่านี้อย่างมาก ขอขอบคุณบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทีมงานสิงห์อาสา เป็นอย่างมาก ที่ได้เห็นว่าชาวบ้านมีความเสียสละเห็นแก่ส่วนรวมไม่เห็นแก่ส่วนตัว จึงมาช่วยกันทั้งเรื่องของพันธุ์ข้าว เรื่องการดำนา การรวบรวมชาวบ้านให้รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและแสดงถึงพลังความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องเกษตรกรชาวนา นับว่าเป็นการช่วยเยียวยาชาวบ้านในเรื่องของจิตใจด้วย

ขณะที่ นายสมเกียรติ ธรรมใจ บ้านหนองอ้อ ม.2 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชาวนาเจ้าของพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำถ้ำหลวง และยังเป็นเจ้าหน้าที่อาสาชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน กล่าวว่า ช่วงที่กำลังมีการดำเนินการช่วยเหลือเด็กๆทั้งหมดที่ติดถ้ำ ได้อาสาไปช่วยอบต.โป่งผา ยกของแบกอุปกรณ์ในการระบายน้ำของหน่วยซีลและหน่วยงานราชการทหาร วันที่สองที่มีการสูบน้ำออกจากถ้ำหลวงและผันน้ำมาลงยังพื้นที่นาของชาวบ้าน มีฝนตกเยอะเกือบจะทั้งคืน พื้นที่นาของตนทั้งหมด 7 ไร่ได้รับน้ำไว้หมดเลย

ความเสียหายอันนี้คิดว่าไม่เป็นไรช่างมัน เสียหายก็ปล่อยให้เสียไป เพราะชีวิตเด็กๆ ถ้าเสียไปแล้วเราเอากลับคืนมาไม่ได้ แต่นาข้าวถ้าเสียหาย เรายังมีเมล็ดพันธุ์ข้าวยังดำนาปลูกใหม่ได้ ถึงจะได้ผลผลิตไม่มาก แต่ก็พออยู่พอกิน การที่สิงห์อาสามาแจกต้นกล้าและเมล็ดข้าวให้ชาวนาในพื้นที่นี้ในวันนี้ รู้สึกดีใจ รวมทั้งยังมาช่วยดำนาด้วย ต้องขอบคุณทุกคนมาก

 

นายอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดการส่วนกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวถึงการลงพื้นที่ช่วยดำนาของเหล่าสิงห์อาสาครั้งนี้ว่า เชียงรายคือบ้านของเรา วันนี้สิงห์อาสามาดูแลคนในครอบครัว นอกเหนือจากการช่วยเหลือสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ต่างๆ ทั้งในเรื่องของน้ำดื่ม อาหาร และ อุปกรณ์ช่วยชีวิตบริเวณหน้าถ้ำหลวงในช่วงที่มีการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่แล้ว ในวันที่หลายหน่วยงานกำลังให้ความช่วยเหลือเด็กๆที่ประสบภัย สิงห์อาสาได้เห็นความเสียสละของชาวนากลุ่มหนึ่งที่ยอมผันน้ำเข้าพื้นที่นาของตัวเองเพื่อช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต เราจึงได้ร่วมกับนักศึกษาเครือข่ายสิงห์อาสา รวมไปถึงปราชญ์ชาวบ้านจ.เชียงราย รวมไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ร่วมแรงร่วมใจกันดูแลชาวนาที่เสียสละในครั้งนี้อย่างทันท่วงที

นายอรรถสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ครั้งนี้สิงห์อาสา ได้ร่วมกับนักศึกษาเครือข่ายสิงห์อาสา ที่ศึกษาอยู่ในคณะเกษตรฯ รวมไปถึงคณะอื่นๆ ร่วมแรงร่วมใจนำเอาความรู้ที่เรียนมาช่วยเหลือให้กับชาวนาที่เสียสละ รวมไปถึงคุณพรรณพิมล ปันคำ ผอ.โรงเรียนชาวนา (สิงห์อาสา – เชียงราย) นำเครือข่ายพี่น้องเกษตรกรที่เคยผ่านการอบรมมาร่วมแรงร่วมใจกันเข้าร่วมกิจกรรมดำนามอบกำลังใจในครั้งนี้กันอย่างเหนียวแน่น