วันที่ 13 ก.ค. จากการที่ผันน้ำออกจากถ้ำหลวงฯ ล่าสุดพบพื้นที่เสียหายสิ้นเชิงกว่า 1,200 ไร่ เกษตรกร 126 ราย ในจำนวนนี้พบว่ามีเกษตรกร 19 ราย ประสงค์ไม่ขอรับเงินช่วยเหลือเนื่องจากต้องการช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 คน
หลังมีการระบายน้ำจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี่ทั้ง 13 ชีวิต ส่งผลให้พื้นที่นาของชาวบ้านบางส่วนได้รับความเสียหาย ล่าสุดทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 และหมู่ 6 ตำโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้มีหนังสือถึงนายอำเภอแม่สาย โดยระบุถึงความประสงค์ของชาวบ้านจำนวน 19 ราย ไม่ต้องการรับเงินช่วยเหลือกรณีได้รับผลกระทบดังกล่าว
ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบหากไม่ประสงค์ขอรับเงินช่วยเหลือสามารถทำได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ยังมีมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ เช่น สนับสนุนพันธุ์ข้าวและปัจจัยการผลิต โดยจะสั่งการให้กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ไป มอบพันธุ์ข้าว และปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ส่วนงบประมาณที่ใช้ในการจ่ายชดเชยนั้นเป็นงบฯ ผู้ประสบภัยพิบัติของจังหวัด
ด้าน นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ระบุว่า จากการสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายสิ้นเชิง มีกว่า 1,200 ไร่ เกษตรกร 126 ราย วงเงินที่ขอรับการช่วยเหลือกว่า 1 ล้าน 4 แสนบาท
สำหรับขั้นตอนหลังพบพื้นที่เสียหายสิ้นเชิงแล้ว ทางจังหวัดจะประกาศเขตภัยพิบัติ ขณะที่เกษตรกรต้องแจ้งความเสียหาย ส่วนผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือ อบต. ต้องรับรองว่าเป็นพื้นที่เสียหายจริง จากนั้นเกษตรอำเภอหรือคณะกรรมการหมู่บ้านจะเข้าไปตรวจสอบ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนที่จังหวัดเชียงรายจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือได้ ซึ่งพืชแต่ละชนิดจะได้รับเงินช่วยเหลือที่แตกต่างกัน เช่น ข้าว จะได้รับชดเชยไร่ละ 1,113 บาท / พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่นๆ อัตราไร่ละ 1,690 บาท