เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากเหตุการณ์ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย นับตั้งแต่วันที่หายเข้าถ้ำ คือวันที่ 23 มิ.ย.61 จนถึงวันนี้ วันที่ 10 ก.ค.61 ก็ได้ความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน และหลายๆ ประเทศทั่วโลก ในการช่วย 13 ชีวิต ออกมาจากถ้ำ ซึ่งนอกจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอยู่ภายในถ้ำเเล้ว ก็ยังมีบรรดาผู้ปิดทองหลังพระอีกจำนวนมาก ที่ได้เข้ามาช่วยกันอย่างเต็มกำลัง และหนึ่งในนั้น ก็คือคนผู้ที่ชาวสมุทรสาครรู้จักกันในนาม ชลอ ยกกระบัตร หรือชื่อจริงคือ นายชลอ เกิดปั้น เจ้าของเต็นท์ ชลอยกระบัตร และเครื่องปั่นไฟ รองชลอกระแส ซึ่งได้นำเครื่องปั่นไฟกำลังแรงจำนวน 3 เครื่อง ไปช่วยในภารกิจพาหมูป่าออกจากถ้ำ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.61 เรื่อยมาจนถึงวันสุดท้ายคือวันที่ 9 ก.ค.61

นายชลอ เกิดปั้น วัย 50 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 187/5 หมู่ที่ 6 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เป็นเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง และดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเต็นท์และเครื่องปั่นไฟมานานหลายปีแล้ว

โดยนายชลอเล่าว่า ในปี 54 เมื่อเกิดน้ำท่วมหนัก ตนได้ส่งเครื่องสูบน้ำพญานาคและทีมงานเข้าช่วยเหลือในหลายๆ พื้นที่ ทั้งในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่วิกฤติ

กระทั่งเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 61 ได้เกิดเหตุการณ์ทีมหมูป่า 13 ชีวิตติดอยู่ในถ้ำหลวง ตนและครอบครัวก็ได้เฝ้าติดตามข่าวนี้มาอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าภารกิจการค้นหาทีมหมูป่านั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้าภายในถ้ำ

จึงได้โทรศัพท์ไปถามทางหน่วยงานที่จังหวัดเชียงราย ว่าตนพอที่จะช่วยอะไรได้บ้าง ซึ่งทางจังหวัดเชียงรายก็ถามกลับมาว่า แล้วทางนี้มีอะไรบ้าง ตนบอกกลับไปว่า มีเครื่องปั่นไฟกำลังแรง กับมีท่อสูบน้ำแบบมอเตอร์ (ใช้กำลังไฟ) กับท่อสูบน้ำพญานาค (ใช้น้ำมันดีเซล)

พอทางจังหวัดเชียงรายได้ยินว่ามีเครื่องปั่นไฟ ก็รีบตอบรับทันที เพราะว่าเป็นสิ่งที่กำลังต้องการที่สุด ดังนั้นตนจึงได้จัดเครื่องปั่นไฟขนาด 150 กิโลวัตต์ 2 เครื่อง เครื่องปั่นไฟขนาด 250 กิโลวัตต์ 1 เครื่อง ท่อสูบน้ำแบบมอเตอร์ 1 เครื่อง และท่อสูบน้ำแบบพญานาคอีก 1 เครื่อง พร้อมกับทีมงาน 5 คน ขึ้นรถบรรทุก 3 คัน มุ่งตรงไปจังหวัดเชียงรายทันที

เมื่อไปถึงก็ได้รับการจัดสรรให้เข้าปฏิบัติหน้าที่บริเวณปากทางเข้าถ้ำ กับด้านหลังถ้ำ ซึ่งตนและทีมงานได้ปฏิบัติภารกิจแบบ 24 ชั่วโมงทุกวัน จนถึงวันที่ 9 ก.ค.61 วันที่พาลูกหมูป่าพ้นออกจากถ้ำมาได้บ้างแล้วนั้น ก็ได้ถอนกำลังกลับมาที่อำเภอบ้านแพ้ว เนื่องจากเครื่องปั่นไฟที่ทาง กฟภ.เชียงราย มีอยู่เดิมนั้น เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจเเล้ว

นายชลอบอกอีกว่า ในวันที่รู้ว่าทีมหมูป่าติดถ้ำตนเองก็รู้สึกใจหายและอยากจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือภารกิจสำคัญครั้งนี้ จนถึงวันนี้ วันที่สามารถพาหมูป่าออกจากถ้ำได้แล้วนั้น ตนเองรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับชาวไทยและคนทั่วโลก ที่เฝ้าดูการช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต

รวมถึงได้เห็นพลังอันสำคัญจากทุกหน่วยงาน จากคนไทยทั่วทั้งประเทศ และน้ำใจจากทั่วโลก ที่หลั่งไหลมารวมกันที่ถ้ำหลวง เพื่อให้ภารกิจพาหมูป่า 13 ชีวิต ออกจากถ้ำ และกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าพวกตนจะเป็นแค่ผู้ปิดทองหลังพระ แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในภารกิจสำคัญที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้