เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีเครื่องบินลาดตระเวนของกองทัพบกขาดการติดต่อจากหอบังคับการบินที่จ.แม่ฮ่องสอน กระทั่งพบ เครื่องบินตกที่ ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ขณะบินลาดตระเวนตรวจพื้นที่ และการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบริเวณแนวชายแดน เมื่อ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 1 นาย

นางหทัยวรรณ แปรงกระโทก หรือ เฟิร์น อายุ 27 ปี ภรรยาของ ร.ท.วโรฒม์ แปรงกระโทก หรือ หมวดบอม นักบินที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ ได้พาครอบครัวเดินทางจากภูมิลำเนา ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ไปที่ศูนย์การบินทหารบกลพบุรี เพื่อร่วมพิธีรับศพของ ร.ท.วโรฒม์ โดยมี ด.ช.รณกรณ์ แปรงกระโทก หรือ น้องจู่โจม บุตรชายวัย 5 ขวบ ร่วมเดินทางไปรับศพพ่อด้วย

นางหทัยวรรณ เปิดเผยว่า ตนเองนั้นได้แต่งงานกับ ร.ท.วโรฒม์ มา 6 ปีแล้ว โดยพี่บอมจะเป็นคนที่นิสัยร่าเริงแจ่มใส และเป็นคนสนุกสนาน แต่เวลาทำงานก็จะจริงจังมาก เมื่อมีบุตรชายก็เลยตั้งชื่อว่าน้องจู่โจม ซึ่งความเป็นนักบินที่มีมาดสง่า เป็นวีรบุรุษของชาติ ทำให้น้องจู่โจม ลูกชายชื่นชอบมาก และบอกเสมอว่าโตขึ้นไปอยากเป็นเหมือนพ่อ แม้ว่าตนเองจะกลัวเมื่อสามีไปปฏิบัติภารกิจบินอยู่เหนือท้องฟ้า แต่พี่บอมก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะอุบัติเหตุไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนเห็นเหตุการณ์เครื่องบินตก และมีนักบินเสียชีวิต ก็เคยถามว่าทำไมนักบินไม่ดีดตัวออกมาจากเครื่อง ซึ่งได้รับคำตอบว่า นักบินส่วนใหญ่ถูกฝึกมาให้เป็นนักรบ ซึ่งหากพี่บอมเจอกับเหตุการณ์เช่นนั้นก็จะไม่ยอมดีดตัวออกมา แต่จะพยายามควบคุมเครื่องบินให้พ้นจากเขตชุมชน และพร้อมที่จะสละชีพ เพื่อไม่ให้เครื่องบินไปตกในเขตชุมชน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งคำพูดนี้ติดอยู่ในหัวตนเองตลอดเวลา เพราะกลัวว่าถ้าวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตก พี่บอมอาจจะเสียชีวิตได้ และแล้ววันนี้ก็มาถึง ซึ่งทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจมาก และยังทำใจไม่ได้ในขณะนี้ เพราะก่อนหน้านั้นพี่บอมได้รับภารกิจให้นำสายสลิงไปส่งและบินสำรวจป่าเหนือถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เพื่อช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ภายใน ก่อนที่จะกลับไปประจำการอยู่ที่ จ.พิษณุโลก เหมือนเดิม โดยมีภารกิจบินสำรวจพื้นที่รอยต่อชายแดนตามปกติ