เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อิกอร์ อคินเฟเยฟ! เซฟสองโทษพาหมีขาวดวลเป้าคว่ำกระทิงดุ 4-3 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย สเปนออกนำก่อนอย่างรวดเร็วจากการทำเข้าประตูตัวเองของเซอร์เก อิกนาเซวิช แต่รัสเซียก็มาได้จุดโทษตีเสมอช่วงท้ายครึ่งแรก หลังจากนั้นมากสเปนบุกแทบจะฝั่งเดียวแต่หาประตูไม่เจอจบ 90 นาทีเสมอ 1-1 และต่อเวลาพิเศษก็ทำอะไรกันไม่ได้เลยต้องวัดกันด้วยการดวลจุดโทษ สุดท้ายอิกอร์ อคินเฟเยฟเป็นฮีโร่เซฟสองโทษส่งหมีขาวเอาชนะกระทิงดุในการดวลจุดโทษ 4-3 เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามลุชนิกิ สเตเดียม, กรุงมอสโก “กระทิงดุ” สเปน จ่าฝูงกลุ่มบี ผลงานรอบแรก ชนะ 1 เสมอ 2 มี 5 แต้ม พบกับ “หมีขาว” รัสเซีย อันดับ 2 กลุ่มเอ ชนะ 2 แพ้ 1 มี 6 แต้ม

เจ้าภาพรัสเซียของกุนซือ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ จัดทัพมาในระบบ 3-4-2-1 ประกอบด้วย อิกอร์ อคินเฟเยฟ,อิลยา คูเตปอฟ,เซอร์เกย์ อินาเชวิช,เฟดอร์ คูดรายาชอฟ,มาริโอ แฟร์นันเดส,เดเลอร์ คูซาเยฟ,โรมัน ซอบนิน,ยูริ เซอร์คอฟ,อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ,อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน,อาร์เต็ม ซูบา ส่วนสเปนของกุนซือ เฟร์นานโด เอียร์โร จัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ดาบิด เด เคอา,นาโช เฟร์นันเดซ,เคราร์ด ปิเก้,เซร์คิโอ รามอส,ฆอร์ดี้ อัลบา,โกเก้,เซร์คิโอ บุสเก็ตส์,ดาบิด ซิลบา, อิสโก,มาร์โก อเซนซิโอ,ดิเอโก้ คอสต้า

เริ่มเกมมาเป็นสเปนครองบอลมากกว่ารัสเซียทันที แต่เจ้าภาพใช้เกมรับแล้วสวนเร็วสร้างโอกาสทำประตูได้ดี

น.12 รัสเซียมาเสียท่าในจังหวะฟรีคิก เซอร์เก อิกนาเซวิช ประกบ เซร์คิโอ รามอส จนไม่ทันบอลบอล ตกใส่น่องขณะล้มลงบอลเปลี่ยนทางกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง

เมื่อโดนนำเจ้าหมีขาวจึงต้องลุยทวงประตูคืน น.14 โรมัน ซอบนิน ได้ซัดไกลแต่ไม่เข้ากรอบ

หลังจากนั้นเกมกลับไปเป็นลักษณะเดิม สเปนได้ครองบอลมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถหาจังหวะสับไกได้ ในขณะที่รัสเซียมีการเข้าทำที่เร็วกว่า แต่ก็ยังไม่แน่นอนพอ น.37 โรมัน ซอบนิน ไหลบอลให้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ได้ปั่นด้วยขวาในเขตโทษ แต่บอลโค้งไม่พอหลุดออกหลังไป

จนถึง น.40 เคราร์ด ปิเก้ ไปพลาดใช้มือโดนบอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นลูกจุดโทษทันที อาร์เต็ม ซูบา กดไม่เหลือ เสมอกัน 1-1 แล้ว

ท้ายครึ่งแรก สเปนเกือบขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะ โกเก แทงบอลตามช่องให้ ดิเอโก้ คอสต้า หลุดไปยิงแต่ อิกอร์ อคินเฟเยฟ ออกมานอนขวางได้ทัน และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1

เข้าสู่ครึ่งหลัง สเปนครองเกมเข้ากดดันทันทีไม่มีให้พัก จังหวะสองก็ไม่ให้คู่แข่งได้เลย รัสเซียยังทำได้เพียงจังหวะโต้กลับ น.58 รัสเซียได้โยนเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะเสียแฮนด์บอลในจังหวะ โกโลวิน เก็บตกบอลแถวสอง

ทัพกระทิงดุยังเน้นครองบอลไว้ก่อนไม่ยอมผลีผลามแลก ส่วนรัสเซียแม้เกมสวนกลับจะทำได้รวดเร็วแต่ก็ขาดความแน่นอน

น.85 สเปนน่าได้ประตูจริง ๆ จากจังหวะวอลเลย์นอกกรอบของอิเนียสต้า แต่อิกอร์ อคินเฟเยฟ ปัดได้สวย แม้บอลไปเข้าทางอัสปาสได้ซ้ำก็ยังไม่ผ่านมือนายทวารรัสเซียไปได้

สุดท้ายแม้สองฝั่งจะพยายามเอาประตูชัยมาให้ได้ แต่ก็จบ 90 นาทีด้วยการเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ

น.109 รัสเซียน่าได้อีกแล้วเมื่อโรดริโก้ ตัวสำรอง หลุดเข้ามาทางขวาของเขตโทษก่อนยิงยัดเสาแรก แต่ยิงไปติดเซฟ อคินเฟเยฟ

น.114 สเปนได้ฟรีคิกมุมเขตโทษ มีจังหวะเหนี่ยวกันขณะเปิดเข้ามา ผู้ตัดสินปรึกษาห้อง VAR ก่อนจะให้สัญญาณเล่นต่อ

ทั้งสองทีมพยายามเข้าทำประตูชี้ขาดให้ได้ น.121 โรดริโก ได้ยิงไกลจากนอกเขตแต่ไม่เร็วไม่แรงพอจะเล่นงานอคินเฟเยฟ เกมเข้าสู่การยิงจุดโทษตัดสินนัดแรกของฟุตบอลโลก 2018

จุดโทษยิงกันแบบ ABAB สองคนแรกของสองทีมยิงไม่พลาด มาถึงคนที่สามของสเปน โกเก้ ยิงไปติดเซฟของ อิกอร์ อคินเฟเยฟเต็ม ๆเจ้าตัวถึงกับเอาเสื้อคลุมน่า

สุดท้ายสเปนต้องฝันร้ายเมื่อยาโก้ อัสปาส ยิงไปโดนอคินเฟเยฟเซฟปลายเท้า จบเกมรัสเซียชนะการดวลจุดโทษด้วยสกอร์รวม 5-4 ส่งสเปนกลับบ้านในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนี้