เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันจับกุมกลุ่มเด็กแว้น พร้อมยึด รถ จยย.  ของกลางได้กว่า 200 คัน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ท่อไอเสียชุดแต่งรถที่ไม่ได้มาตรฐานอีกจำนวนมาก

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เปิดเผยว่า กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการปฏิบัติการกวดขันและป้องกันการแข่งขันรถในทางสาธารณะและเด็กหรือเยาวชนประพฤติตนไม่สมควร  ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.22   และ 46/2558   รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ  แก้ไขปัญหาเยาวชนรวมกลุ่มกันแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน  ผู้ใช้รถในทาง  และที่พักอาศัยตามพื้นที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สนองนโยบายของรัฐบาลเรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง  โดยการจัดตั้งคณะทำงานเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการและแก้ไขปัญหาดังกล่าว

โดยเฉพาะการชักชวนเยาวชนออกมาแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จึงได้บูรณาการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการปราบปรามการแข่งรถในทางในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี การปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มเยาวชนที่มีพฤติการณ์ในการรวมกลุ่มมั่วสุมแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

จากการสืบสวนทราบว่ามี นายธีระพล อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ พิ๊มอส  ฮัลโหลลล และTeeraphol Buajaturat ซึ่งเป็นเพจที่มีผู้ติดตามจำนวน 1,250 คน   ได้ชักชวนเยาวชนแข่ง รถ จยย.  ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี  และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงในบริเวณที่มีการร้องเรียนมากที่สุด  ซึ่งสร้างความเดือดร้อนเดือดร้อนรำคาญกับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณริมถนนเป็นจำนวนมาก

และ นายปราโมทย์  อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อ  “จิ๊กโก๋ สองโล”   และ Mote Sdong  ที่มีผู้ติดตามจำนวน 1,500 คน  ซึ่งมีการชักชวนเยาวชนออกมารวมตัวแข่งขันรถในทางบริเวณ ถนนสายรังสิต-นครนายก  ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นประจำ สร้างความเดือนร้อนรำคาญให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นดังกล่าวเป็นอย่างมาก  เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักเข้าสู่จังหวัดนครนายก

และจากสถิติการร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุจังหวัดปทุมธานีได้มีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุฯ ว่า  มีกลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมามีมากถึง 350 ครั้ง  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีในข้อหา  “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ”  ที่ จ.636/61 และ จ.637/61

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมสนธิกำลังเข้าจับกุม นายปราโมทย์  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ จ.636/61 และจับกุม นายธีระพล  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.637/61 นำส่ง  สน.มีนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุฯ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่กวดขันป้องกันปราบปรามการแข่งขันรถในทางและได้ตรวจร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผลการปฏิบัติการตรวจร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมจำนวน   131 ร้าน

พบร้านที่กระทำความผิดจำนวน 42 ร้าน ยึดท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานรวมจำนวน 277 อัน ผลการยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 150 คัน ตรวจปัสสาวะผู้ขับขี่เพื่อหาสารเสพติดจำนวน 152 ราย แบ่งเป็นเยาวชน  15 ราย ผู้ใหญ่  137 ราย พบสารเสพติดในปัสสาวะ จำนวน 29 ราย แบ่งเป็นพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในผู้ใหญ่ 23 ราย และพบสารเสพติดประเภทกัญชาในผู้ใหญ่ 6 ราย

และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้อีก 2  ราย คือ  นายอนุชา อายุ 27 ปีและ  นายมารุต อายุ 18 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่  459/61   ลงวันที่ 26 มิ.ย. 61 และ 465/61 ลงวันที่ 29 มิ.ย. 61  ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองเป็นหัวโจกกลุ่มเด็กแว้น 2 กลุ่ม  ที่มีปัญหากันมานาน

เมื่อทั้งสองกลุ่มมาพบกันครั้งใดจะมีการทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ จนกระทั้งวันที่  20 มิ.ย. 61   กลุ่มเด็กแว้นทั้ง 2 กลุ่ม ได้ออกไปแข่งรถกันในทางและได้พบกันจนเกิดการปะทะกันขึ้น โดย นายอนุชา ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มของ นายมารุต จำนวน 3 นัด มีเพื่อนนายมารุต  โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ นายมารุต จึงใช้ระเบิดปิงปองประดิษฐ์เอง ปาใส่กลุ่มของนายอนุชา ทำให้กลุ่มของนายอนุชา โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บหลายราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวมรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองในความผิดฐาน  “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร” และผู้ต้องหาทั้งสองได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในวันนี้ (29 มิ.ย.61)