วันที่ 30 มิ.ย.61 ร.ต.อ.หญิง ชนานันท์ ชัยกาวิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถทัวร์ชนรถกระบะมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย บริเวณกลางสี่โยกประโดก ถนนพิษณุโลก – อุตรดิตถ์ ขาเข้าเมืองพิษณุโลก ม.3 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพุทธชินราช หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพิษณุเวชและหน่วยกู้ภัยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีแดง หมายเลขทะเบียน บบ 7471 นครศรีธรรมราช พลิกตะแคงอยู่บริเวณกลางสี่แยกไฟแดง สภาพรถพังเสียหายยับเยิน ภายในรถพบผู้บาดเจ็บ 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไทยทอง บัวสระ อายุ 53 ปี ด.ช.ทรรค์พนธิ์ โพธิ์อุดม อายุ 8 ปี และ ด.ช.จิรเมธ โพธิ์อุดม อายุ 4 ปี ทั้ง 3 ราย อาศัยบ้านเลขที่ 124 ม.6 ต.โนนกอก อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน ในเวลาต่อมา ด.ช.ทรรค์พนธิ์ ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ห่างออกไป 50 เมตร พบรถทัวร์สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน 10-3984 นครสวรรค์ สาย นครสวรรค์ – เชียงราย ของบริษัทคิงส์ดอมทัวร์ สภาพด้านหน้าข้างซ้ายมีร่องรอยเฉี่ยวชนอย่างจัง ทราบชื่อผู้ขับขี่ต่อมาคือ นายสมควร พันธุ์สุคร อายุ 50 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 36/9 ม.10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ
สอบถามผู้โดยสารที่นั่งมากับรถทัวร์คันดังกล่าวเล่าว่า รถทัวร์ได้ขับมาตามเส้นทางดังกล่าวตามปกติ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถกระบะคู่กรณี ได้ขับออกมาจากสี่แยกไฟแดงดังกล่าว จึงทำให้รถทัวร์ชนเข้าอย่างจัง ทำให้รถกระบะพลิกตะแคง
สอบสวนนายสมควร ผู้ขับขี่รถทัวร์ ทราบว่า ตนได้ขับรถทัวร์โดยรับผู้โดยสารมาจาก จ.เชียงราย เพื่อจะไปส่งที่ปลายทาง จ.นครสวรรค์ เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุในเส้นทางมุ่งหน้าสี่แยกอินโดจีน โดยฝั่งของตนที่ขับมานั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว และเป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์คู่กรณีได้ขับพุ่งออกมาจากสี่แยกไฟแดง ทางด้านซ้ายของตนอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ตนไม่สามารถหยุดรถได้ทัน หากหักหลบหรือเบรกกะทันหัน อาจจะเกิดเหตุที่ใหญ่กว่านี้ได้
จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า รถกระบะอาจจะฝ่าสัญญาณไฟแดงออกมา จึงทำให้รถทัวร์ที่ขับมาตามสัญญาณไฟเขียว ชนเข้าอย่างจัง จึงเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว สาเหตุที่แท้จริงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนผู้ขับขี่รถทั้ง 2 คันอย่างละเอียด และจะดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่บริเวณสี่แยกไฟแดงดังกล่าว ก่อนจะดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป