เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อีวาน เปริซิช ซัดประตูชัยในช่วงนาทีสุดท้ายของเกมพา โครเอเชีย เฉือนเอาชนะ ไอซ์แลนด์ หวุดหวิด 2-1 ทั้งที่ส่งสำรองเกือบยกทีมคว้าชัยสามนัดติดซิวแชมป์กลุ่ม ดี ทะยานเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพบกับ เดนมาร์ก ส่วน ไอซ์แลนด์ น้องใหม่บอลโลกหนนี้ต้องน้ำตาตกร่วงรอบแบ่งกลุ่ม ในเกมฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

สนาม : รอสตอฟ อารีน่า, รอสตอฟ, ประเทศรัสเซีย

ไอซ์แลนด์ ที่ยังมีลุ้นเข้ารอบ มาชุดเก่งแบบจัดเต็ม นำโดยสองดาวดังอย่าง กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน และ อัลเฟร็ด ฟินน์โบกาสัน เหมือนเดิม ส่วน โครเอเชีย การันตีการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบนร้อย ทำให้กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช เลือกปรับทัพเพียบ แต่ยังคงให้ ลูก้า โมดริช กัปตันทีม ลงบัญชาเกมตรงแดนกลางเหมือนเดิม

 

 

เริ่มเกมช่วง 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรไม่ถนัด เนื่องจากผ่านบอลกันไม่ค่อยแม่น โดยที่ โครเอเชีย เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า นาทีที่ 13 เกมต้องชะงัก เมื่อ เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน ดาวเตะไอซ์แลนด์ ต้องรับการปฐมพยาบาล หลังมีเลือดไหลออกทางจมูก จากการโดนศอกของ มาร์โค เปียช่า ปีกโครเอเชีย ซึ่ง เปียช่า ได้รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์ครั้งนี้ด้วย นาทีที่ 29 ไอซ์แลนด์ ได้ลุ้นจากการโขกลูกเตะมุมของ ฮอร์ดูร์ มักนุสสัน ทว่าบอลหลุดกรอบออกไปเพียงไม่กี่นิ้ว ซึ่งช่วงนี้เป็น ไอซ์แลนด์ ที่ครองเกมและเปิดเกมบุกได้มากกว่า

นาทีที่ 31 ทีมของกุนซือ ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมส์สัน ได้เสียวอีกครั้งจากการยิงฟรีคิกของ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ทว่า ลอฟเร่ คาลินิช นายทวาร “ตาหมากรุก” ป้องกันเอาไว้ได้ ยังคงเป็น ไอซ์แลนด์ ที่ได้เสียวอย่างต่อเนื่อง และนาทีที่ 34 บียาร์นาสัน ได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลไปติดบล็อกของผู้เล่นโครเอเชีย และ โครเอเชีย มีโอกาสบ้างในนาทีที่ 37 เมื่อ อีวาน เปริซิช ได้กลับตัวยิงระยะ 20 หลา แต่บอลไม่ตรงกรอบ ทว่านาทีที่ 41 ไอซ์แลนด์ ใกล้เคียงมากๆ กับการได้ประตู เมื่อ อัลเฟร็ด ฟินน์โบกาสัน เล่นชิ่ง 1-2 กับ ซิกูร์ดส์สัน ก่อนกดเรียดจากบริเวณเส้นเขตโทษ แต่บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว

 

 

ท้ายเกมครึ่งแรก ไอซ์แลนด์ บี้หนักมาก และได้ลุ้นอีกครั้งจากการยิงของ บียาร์นาสัน ทว่าตาหมากรุก ใช้เท้าเซฟเอาไว้ได้ และช่วงทดเวลาบาดเจ็บพวกเขามีลุ้นต่อจากการยิงปั่นโค้งๆ ของ อารอน กุนนาร์สสัน แต่ คาลินิช พุ่งปัดทิ้งออกไปได้อย่างสวยงาม จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังคงอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 51 โครเอเชีย เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากการซัดไกลระยะ 25 หลาของ มิลาน บาเดล ที่บอลไปแฉลบผู้เล่นไอซ์แลนด์ ไปชนคานสนั่น หลังจากนั้นแค่ 2 นาที บาเดล ก็แก้ตัวได้สำเร็จ เมื่อได้โอกาสวิ่งเข้ามาวอลเลย์ บอลกระดอนพื้นเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมกับส่งให้ โครเอเชีย ขึ้นนำ 1-0 ไอซ์แลนด์ ใจเย็นไม่ได้แล้ว เดินหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่ โครเอเชีย ทันที และเกือบได้ประตูตีเสมอแบบทันควันในนาทีที่ 57 จากการโขกของ สเวอร์เรียร์ อินกาสัน ทว่า คาลินิช ปัดข้ามคานออกไปได้ ไอซ์แลนด์ มีโอกาสได้ประตูอีกครั้งในนาทีที่ 72 เมื่อ ซิกูร์ดส์สัน เปิดบอลเข้ากลางให้ บียาร์นาสัน ที่ยิงโล่งๆ แต่เจ้าตัวกลับยิงไม่เต็มเท้า บอลหลุดกรอบออกไป

 

 

นาทีที่ 74 ไอซ์แลนด์ ได้ลูกจุดโทษ เมื่อ เดยัน ลอฟเรน ที่ลงเป็นตัวสำรอง ทำแฮนด์บอล และ ซิกูร์ดส์สัน สังหารเข้าไปไม่พลาด ไอซ์แลนด์ ตีเสมอ 1-1 เรียบร้อยในนาทีที่ 76 นาทีที่ 84 โครเอเชีย เฉียดได้ประตูขึ้นนำอีกรอบ เมื่อ อีวาน เปริซิช ได้ยิงฟรีคิกระยะ 25 หลา แต่บอลข้ามคานไปนิดเดียว จากนั้นนาทีที่ 87 โครเอเชีย ได้เสียวจากฟรีคิกอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็น อีวาน ราคิติช ที่ลงเป็นตัวสำรอง ยิงข้ามคานไปแบบได้ลุ้น

ในที่สุดนาทีที่ 90 โครเอเชีย ขึ้นนำอีกรอบเป็น 2-1 จากการหลุดเข้าไปยิงอย่างสุดเฉียบของ เปริซิช หลังจากนั้น ไอซ์แลนด์ พยายามทวงประตูคืน แต่ไม่เป็นผล จบเกม โครเอเชีย คว้าชัย 2-1 พร้อมทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฐานะแชมป์กลุ่ม ดี ด้วยสถิติชนะรวดทั้ง 3 นัด ส่วน ไอซ์แลนด์ ตกรอบ

 

 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ไอซ์แลนด์ : (4-2-3-1) : ฮันเนส ฮัลล์ดอร์สสัน – เบียร์เคียร์ แซวาร์สสัน, สเวอร์เรียร์ อินกาสัน, รักนาร์ ซิกูร์ดส์สัน (บียอร์น ซิกูร์ดส์สัน แทน นาทีที่ 71), ฮอร์ดูร์ มักนุสสัน – อารอน กุนนาร์สสัน (กัปตันทีม), เอมิล ฮัลล์เฟร็ดส์สัน – อัลเบิร์ต กุดมุนด์สสัน, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน (อาร์นอร์  ตราอุสตาสัน แทน นาทีที่ 90) – อัลเฟร็ด ฟินน์โบกาสัน (อัลเบิร์ต กุดมุนด์สสัน แทน นาทีที่ 85)

เทรนเนอร์ : ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมส์สัน

โครเอเชีย : (4-2-3-1) : ลอฟเร่ คาลินิช – ทิน เยดวาย, เวดราน ชอร์ลูก้า, ดูเย่ ชาเลตา-คาร์, โยซิป พิวาริช – ลูก้า โมดริช (กัปตันทีม) (ฟิลิป บราดาริช แทน นาทีที่ 65), มิลาน บาเดล – มาร์โค เปียช่า (เดยัน ลอฟเรน แทน นาทที่ 69), มาเตโอ โควาชิช (อีวาน ราคิติช นาทีที่ 82), อีวาน เปริซิช – อันเดรย์ ครามาริช

เทรนเนอร์ : ซลัตโก้ ดาลิช

ผู้ตัดสิน : อันโตนิโอ มาเตว ลาโอซ (สเปน)