เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต บริเวณศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่าง นางสาวศิริขวัญ อายุ 27 ปี ถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องล้างไต ใกล้กันพบชายไม่ทราบชื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงเร่งเคลื่อนย้ายเข้าห้องผ่าตัดให้การช่วยเหลือ

ขณะที่ จากการสอบถามพยานแวดล้อมเบื้องต้น ทราบว่าทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน โดยฝ่ายชายได้บุกเข้ามาในห้องดังกล่าวก่อนใช้อาวุธปืนยิงหญิงสาวจนเสียชีวิต ก่อนจะยิงตัวเองตามแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้าเหตุ นายเกรียงไกร อยู่ไพร อายุ 41 ปี เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญงาน เรือนจำกลางบางขวางใช้อาวุธปืนยิง นางศิริขวัญ ทองเล็ก อายุ 26 ปี พนักงานลูกจ้าง โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เสียชีวิตก่อนใช้อาวุธปืนยิงศีรษะตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณตึกเงินถุงแดง บริเวณห้องล้างไตทางช่องท้องCAPD ชั้น 1 รพ.พระนั่งเกล้า ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นางศิริขวัญฯ และ นายเกรียงไกรฯ เคยเป็นคู่สามีภรรยากัน และนางศิริขวัญฯ ทำงานเป็นพนักงานลูกจ้าง ที่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายเกรียงไกรฯ ได้เดินทางมาโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเพื่อมาตรวจโรคตามหมอนัด และได้มีปากเสียงกับนางศิริขวัญฯ ผ่านทางโทรศัพท์ ก่อนที่นายเกรียงไกรจะเดินมาหานางศิริขวัญฯ ที่ตึกเงินถุงแดง ซึ่งนางศิริขวัญฯ กำลังนั่งทำงานอยู่บริเวณหน้าคอมพิวเตอร์ภายในห้องล้างไตทางช่องท้องCAPD และคุยกันก่อนที่นายเกรียงไกรฯ จะชักปืนสั้นขนาด 9 มม. ยิงนางศิริขวัญฯ ขณะที่ นั่งทำงานอยู่ 3 นัด เข้าที่บริเวณ หน้าอก ช่องท้อง คอ และ ยิงตัวเองตามไป ที่ บริเวณศีรษะ อีกจำนวน 1 นัด แพทย์และพยาบาลในห้องดังกล่าวช่วยกันปฐมพยาบาล ก่อนที่นางศิริขวัญฯ จะเสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุและนำตัวนายเกรียงไกรฯไปรักษา แพทย์อยู่ระหว่างให้การช่วยเหลือ

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้น่าเชื่อว่าตัวผู้ก่อเหตุคงจะเข้ามาขอคืนดีกับผู้ตายแต่เกิดมีปากเสียงกันแล้วเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงมา ด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมกำชับฝ่ายสืบสวน สืบสวนข้อมูล จากพยานบุคคลและพยานแวดล้อมต่างๆทางคดี โดยเน้นย้ำให้ทำงานควบคู่กันไปทั้งสองฝ่าย เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ที่แท้จริง และเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่น มั่นใจ ในกระบวนการยุติธรรมที่เป็นไปตามหลักสากล