โคลอมเบีย คืนฟอร์มเก่งหลังไล่ถล่มโปแลนด์ตัวแทนจากทวีปยุโรป 3-0 แต่ที่โชว์ฟอร์มสุดเด่นกลายเป็น ฮาเมส โรดริเกซ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่หายเจ็บกลับมาก่อนจ่ายสุดงามให้เพื่อนยิงถึงสองเม็ด ซิวสามแต้มสำคัญพร้อมเขี่ยโปแลนด์เป็นทีมจากยุโรปทีมแรกที่ตกรอบแบ่งกลุ่ม โดย โคลอมเบีย จะต้องไปชี้ชะตากับ เซเนกัล ในแมตช์สุดท้าย ในเกมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย
ฟุตบอลโลก 2018
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัด2 )
วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2561
โปแลนด์ 0 – โคลอมเบีย 3
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โปแลนด์ (3-4-3) : วอยเซียค เชสนี่ – ลูคัสซ์ พิสเซ็ค, ยาน เบ็ดนาเร็ค, มิชาล พาซดาน (คามิล กลิค น.80) – บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้ (ลูคัสซ์ เตโอดอร์ซิค น.72), เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค, ยาเซ็ค โกรัลสกี้, มาเซียจ รีบุส – ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (กัปตันทีม), ดาวิด คอฟนัคกี้ (คามิล โกรซิคกี้ น.57)
โคลอมเบีย (4-2-3-1) : ดาวิด ออสปีน่า – ซานตีอาโก้ อารีอาส, ดาวินซอน ซานเชซ, เยร์รี มีน่า, โยอัน โมฮีก้า – อาเบล อากีล่าร์ (มาเตอุส อูรีเบ้ น.32), วิลมาร์ บาร์รีออส – ฮวน กวาดราโด้, ฮวน กวินเตโร่ (เจฟเฟร์ซอน เลร์มา น.73), ฮาเมส โรดรีเกซ – ราดาเมล ฟัลเกา (คาร์ลอส บัคก้า น.78)
ผู้ตัดสิน: เซซ่าร์ รามอส (เม็กซิโก)
สนาม : คาซาน อารีน่า ,รัสเซีย
โปแลนด์เป็นฝ่ายเริ่มเกมก่อน และไม่รอช้าพยายามที่จะทำประตูให้ได้ โดย น. 3 ยาเซ็ค โกราลสกี้ เปิดเตะมุมให้ พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ แต่โดนบล็อกโดย เยร์รี่ มีน่า สองนาทีต่อมา บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้ มีโอกาสเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ และ โรเบิร์ต เลวานดอสกี้ ได้โหม่งแต่ไม่ถนัดทำให้บอลไม่แรงพอและเข้ามือ ดาวิด ออสปิน่า ง่ายๆ
ทั้งสองทีมพยายามจะเปิดเกมบุกเข้าใส่กัน แต่เกมส่วนใหญ่ยังอยู่ที่กลางสนาม น. 13 ฮวน กวาดราโด้ มีโอกาสลากเลื้อยในพื้นที่แคบๆทางฝั่งขวา และเปิดบอลให้ ราดาเมล ฟัลเกา แต่โดน ยาน เบดนาเร็ค โหม่งทิ้งไปได้ก่อน ต่อมา น. 19 จากจังหวะเตะมุม มาร์เชย์ รีบุส ได้โอกาสโยนเข้าในเขตโทษ โคลอมเบีย แต่ ฟัลเกา ลงมาช่วยโหม่งสกัดได้ทัน
ใน น. 23 ซานติอาโก้ อารีอาส ลากบอลไปสุดเส้นหลังและตบเข้ามาในกรอบ 6 หลา แต่ มิชาล ปาซดาน อยู่ถูกที่ถูกเวลาก็เลยจัดการเตะทิ้งไปได้ก่อน และ น.25 จากจังหวะส่วนกลับ โคลอมเบีย โดย โรดริเกซ ทิ่มบอลยาวทะลุแนวรับโปแลดน์ให้ ฟัลเกา ทะลุเข้าไปในเขตโทษและตอกส้นให้ กวาดราโด้ แต่โดนลูคัสซ์ พิซเซ็ค เตะทิ้งออกหลังได้ทัน
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง โคลอมเบีย ต้องเปลี่ยนตัวเมื่อ อเบล อากีลาร์ มีปัญหาบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องส่ง มาเตอุส อูริเบ้ ลงมาเล่นแทน โดย โคลอมเบีย ยังคงทำเกมได้เหนือกว่า และ น. 34 อารีอาส มีโอกาสได้โหม่งจากเสาไกลเข้ามาในกรอบเขตโทษแต่เป็นอีกครั้งที่ โปแลนด์ เคลียร์ทิ้งไปได้
โอกาสทองของ โคลอมเบีย มาอกครั้งเมื่อ กวาดราโด้ โชว์สเต็ปเทพลากเลื้อยราวงูเห่าทะลุไปถึงเส้นหลังแต่โดนสกัดทิ้งออกไปได้ อย่างไรก็ตาม ความพยายามของ โคลอมเบีย มาสำเร็จ น. 40 เมื่อ โรดริเกซ เปิดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ และ เยร์รี่ มีน่า กระโดดโหม่งเต็มศีรษะเข้าประตูช่วยทีมขึ้นนำ 1-0
หลังจากเสียประตู โปแลนด์ เริ่มได้สติพยายามเปิดเกมบุกมากขึ้น แต่ก็โดน โคลอมเบีย ขู่ด้วยการสวนกลับเป็นระยะๆ โดย โรดริเกซ สามารถปั่นป่วนแนวรับของคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้ ได้โอกาสเปิดบอลในจังหวะเตะมุม แต่โดนสกัดทิ้งสุดท้ายกรรมการ เป่านกหวีดยาวจบครึ่งแรก
ในครึ่งหลัง เป็นไปตามคาด โปแลนด์ พยายามจะเปิดเกมบุกแต่ก็ทำอะไรได้ไม่ถนัด สุดท้ายก็โดน โคลอมเบีย ตัดเกมคอยสวนกลับ แต่ใน น. 50 ฮวน กินเตโร่ ลองพยายามยิงไกลระยะ 30 หลา แต่บอกออกเสาไปเยอะ อีกสองนาทีต่อมา โคลอมเบีย มีโอกาสเมื่อ กวาดราโด ส่งบอลให้ ฟัลเกา แต่ยิงเหินข้ามคานแบบไม่มีลุ้นเลย
โปแลนด์ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนกระทั่ง น. 56 โคลอมเบีย ตัดเกมจากด้านตัวเองและสวนกลับ โดน โรดริเกซ ส่งให้ กินเตโร่ ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจในพลังฝีเท้าอย่างมากก็เลยซัดไกลแต่ติดบล็อก เบดนาเร็ค ออกหลังไป และในน. 58 หลังจากนั้นจากจังหวะวางยาวเข้ามาในเขตโทษ เลวานดอฟสกี้ เกี่ยวบอลลงมาได้อย่างสุดยอด และซัดทันทีแต่ ออสปิน่า ไวสุดๆ เมื่อพุ่งมาใช้ตัวป้องกันเอาไว้ได้ทัน
น. 70 โคลอมเบียได้ประตูขึ้นนำ 2-0 เมื่อ กินเตโร่ โชว์ลีลาสายตาเหยี่ยวทุ่มบอลทะลุแนวรับ โปแลนด์ และ ฟัลเกา วิ่งเข้ามารับบอลจากนั้นก็ลากเข้าไปซัดด้วยขวาติดไซด์ก้อยบอลผ่านมือ เชสนี่ เข้าไปซุกก้นตาขายเรียบร้อย ซึ่งเป็นประตูแรกของ ดาวยิงโมนาโก ในบอลโลกที่รัสเซีย
โปแลนด์ไม่มีอะไรจะเสียเพราะหากแพ้เกมนี้ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านทันที ทำให้พวกเขาต้องเปิดเกมบุกเต็มสูบ และสุดท้ายในน. 75 ก็เจอทีเด็ดของ โรดริเกซ อีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวโชว์ทักษะการแอสซิสต์ขั้นเทพ ส่งบอลคิลเลอร์พาสบริเวณครึ่งสนามทะลุให้ กวาดราโด้ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เชสนี่ แล้วไม่ทำให้ผิดหวัง ทำให้ตอนนี้ โคลอมเบีย นำห่าง 3-0
ฟอร์ม โปแลนด์ เอาแน่เอานอนไม่ได้และเกือบเสียประตูใน น. 83 อูริเบ้ มีโอกาสตอกส้นหน้าประตูบอลกำลังกลิ้งจะข้ามเส้นอยู่แล้ว แต่เป็น เบดนาเร็ค อีกแล้วที่เตะเคลียร์ทิ้งไปได้ อย่างไรก็ตาม น. 88 โปแลนด์ ยังมีเถียงเมื่อ เลวานดอฟสกี้ ซัดไกล่ แต่ ออสปิน่า โชว์ซูเปอร์เซฟปัดข้ามคานออกไป
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที โคลอมเบีย ดูเหมือนจะปิดเกมแล้ว ขณะที่ โปแลนด์ ยังพยายามที่จะตีไข่แตกให้ได้ สุดท้ายไม่สำเร็จ จบเกม โคลอมเบีย เก็บ 3 คะแนนสำคัญทำให้มีลุ้นผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ขณะที่ โปแลนด์ เป็นตัวแทนจากทวีปยุโรปทีมแรกที่โบกมือลาฟตุบอลโลก 2018
