เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธยา  อายุ 30 ปี พ่อค้าร้านจำหน่ายของชำภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดศรีวารีน้อย ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ  นำภาพหลักฐานภาพวงจรปิดภายในร้านของตนเอง มาร้องเรียนต่อสื่อมวลชล ซึ่งเป็นภาพขณะที่มีชายวัยกลางคนแสดงตัวเข้ามาติดต่อพูดคุยระบุว่า  ตัวเองเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของชำจากโรงงาน มาเสนอขายในราคาถูก


นายสนธยา ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงบ่ายของวันที่ 17 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกำลังขายของในร้าน ปรากฏว่ามีรถยนต์กระบะสีขาวยกสูง มีหลังคา ขับมาจอดหน้าร้านและมี ชายลงมาจากรถทั้งหมด 3 คน หนึ่งในนั้นได้เข้ามาติดต่อ แจ้งว่าตนเองเป็นเชลส์ขายสินค้า ประเภทของชำหลากหลายชนิดในราคาถูกกว่าร้านส่ง มาเสนอขายสินค้า
ซึ่งช่วงแรกตนเองได้ปฏิเสธไป แต่กลับพบว่า กลุ่มชายดังกล่าวพยายามตื้อและพูดโน้มน้าวเสนอโปรโมชั่นพร้อมกันพาดูสินค้าหลังรถจนตนเองยอมใจอ่อนนั่งพูดคุยด้วย  หนึ่งในผู้ก่อเหตุได้นำแคตตาล็อก มาแสดงและพูดเสนอขายสินค้าต่างๆ จนกระทั่งตนเองยอมตกลงซื้อสินค้าเป็นจำนวนเงิน 17,800  บาท ตามโปรโมชั่นที่กลุ่มผู้ต้องหาเสนอขายต้องไม่ต่ำจากราคา 17,000 บาท  ถึงจะได้โปรโมชั่นหลังจากตอบตกลงซื้อสินค้าและจ่ายเงินสดเสร็จ กลุ่มผู้ต้องหาได้ยกสินค้าเข้ามาในร้าน  ยังมีการไล่เช็คสินค้าให้กับตนเองฟังว่า อะไรครบไหม นำลงมาจากรถหรือยัง  จนกระทั่งลงสินค้าเสร็จ  กลุ่มผู้ต้องหาก็รีบขับรถออกมา  เมื่อตนเองหันมาเห็นกองสินค้าพบว่า น้อยจนแปลกตาจึงตรวจสอบอย่างละเอียดถึงกับเข่าอ่อนเมื่อรู้ว่าสินค้าที่ได้มานั้นมีมูลค่ารวมแล้ว 3 พันกว่าบาทเท่านั้นจึงมั่นใจว่าถูกหลอก
ตนเองจึงเดินทางแจ้งความไว้ที่  สภ.บางพลี และยิ่งไปกว่านั้น มีเพื่อนส่งข้อมูลข่าวที่สื่อเคยนำเสนอไปเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา  จากกรณีที่ตำรวจฉะเชิงเทราจับแก๊งต้มตุ๋นขายสินค้าร้านของชำในจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งผู้ต้องหาที่ตำรวจนำมาแถลงข่าวนั้นกลายเป็นกลุ่มผู้ต้องหาเดียวกันที่มาก่อเหตุกับตนเองในครั้งนี้ หลังจากถูกจับผ่านไปไม่กี่เดือนนี้เอง
จึงอยากวอนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามจับกุมมาดำเนินดคีอย่างเด็ดขาดและเพิ่มโทษให้หนักจะได้ไม่ออกมาก่อเหตุเดิมๆ กับผู้เสียหายรายอื่นอีกและฝากเตือนไปยังร้านของชำในจังหวัดสมุทรปราการและใกล้เคียงให้ระวังแก๊งนี้หากพบให้รีบแจ้งตำรวจจับกุมทันที