ช่วงนี้สงสัยเป็นช่วงกระแสของร่างทรงจริงๆ ข่าวเกี่ยวกับร่างทรงทั้งหลายมีมาทุกวันเลย วันที่ 22 มิ.ย. ขณะที่ พ.ต.ท.ธนันชัย สืบศรีขจรรัฐ สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือสมุทรปราการ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ร.ต.ต.ณัฐวุฒิ มีชำนาญ รอง สวป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจงานป้องกันและปราบปราม ได้นำตัวนายสมศักดิ์ เปรมปราศรัย อายุ 41 ปี ที่อ้างตัวว่าเป็นร่างทรงพ่อปู่ฤาษีนารอด ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาและอาละวาดส่งเสียงโวยวายด่ากราดอดีตภรรยา ที่เป็นร่างทรงขององค์พ่อปู่ท้าวมหาพรหม วัย 50 ปี บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 96/404 หมู่บ้านรินทาง ซอย 7 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มาควบคุมเพื่อสงบสติอารมณ์
โดยขณะคุมตัวมายังโรงพัก นายสมศักดิ์ ยังได้อุ้มเศียรปู่ฤาษีมาด้วยพร้อมขันทองเหลืองอีก 1 ใบ และระหว่างที่อยู่บนโรงพักองค์ปู่ของนายสมศักดิ์ ได้ลงประทับร่าง และเกิดปะทะคารมกับอดีตภรรยาที่ตามมาด้วยกลางโรงพัก โดยนายสมศักดิ์ ได้ทวงเงิน 1 พันบาท ซึ่งเป็นค่าแรงในการรับเหมาก่อสร้างย่านในพระราม 7 ที่อดีตภรรยาแอบไปเบิกมาจากนายจ้างทำให้นายสมศักดิ์ ไม่มีเงินซื้อข้าวให้ลูกน้องกิน ซึ่งอดีตภรรยา ก็ได้คืนเงินให้ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ 500 บาท โดยอ้างว่าเงินใช้ไปแล้วเหลือเพียงเท่านี้ แต่นายสมศักดิ์ ยังไม่ยอมสงบและมีทีท่าว่าจะเข้าไปทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปห้ามปราบและพยายามจะนำตัวเอาไปสงบสติอารมณ์ในห้องขัง
แต่เมื่อนายสมศักดิ์ รู้ตัวว่าจะถูกควบคุม จู่ๆ ก็ได้มีองค์กุมารชื่อฟ้าใสประทับร่างและทำท่าตุ้งติ่งเหมือนเด็ก อ้างว่าจะมารับพ่อกลับบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากนายสมศักดิ์ ยังอยู่ในอาการมึนเมา จึงได้พยายามคุมตัวเอาไปสงบสติอารมณ์ในห้องขัง นายสมศักดิ์ กลับมีอาการขึงขังขึ้นมาทันทีพร้อมพูดเสียงดังว่า “กูมาทวงเงินของกู แต่มึงจะเอากูเข้าห้องขัง กูผิดอะไร” พร้อมเอะอะโวยวายขว้างปาข้าวของใส่พื้น กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าคุมตัวนายสมศักดิ์ เข้าสงบสติอารมณ์ในห้องขัง ทันทีที่นายสมศักดิ์ ถูกคุมตัวใบหน้าถอดสี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคุมตัวเอาไว้ให้สร่างเมาก่อนที่จะทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหา “เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย” และจะปล่อยตัวกลับไป
