วันที่ 20 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายสุนทร และนางยุคล สุขมาก พ่อแม่นายดนุเดช นักเรียนชั้น ม.5 ที่ถูกนายธีรศักดิ์ หลงจิ ฆ่าชิงทรัพย์เมื่อปี 2555 โดยเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้ประหารชีวิตนายธีรศักดิ์ ไปแล้วนั้น
โดยนางยุคล กล่าวว่า เมื่อทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ซึ่งไม่เหมือนกับลูกตนที่ไม่ได้กระทำผิด แต่ต้องมาตาย อย่างทารุณจึงทำให้รับไม่ได้ แต่เรื่องของการสูญเสียก็ต้องเกิดกับทุกคนอยู่แล้ว ขึ้นอยู่ว่าเหตุการณ์ในการสูญเสียนั้นเป็นรูปแบบใด ทั้งนี้ตนไม่ได้ติดตามเรื่องของทางฝ่ายนู้นเลย
ทุกวันนี้เหมือนตกนรกทั้งเป็น กอดคอกันร้องไห้ทุกคืนแค่หันมามองหน้าก็รู้อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรกันเลย ตนเจ็บปวดมาก เจ็บปวดมากจริงๆ หากใครไม่เคยสูญเสียอย่างตน ก็จะบอกถึงความรู้สึกที่ตนและครอบครัวเป็นอยู่ไม่ได้ มันไม่สามารถระบาย ตีค่าออกมาได้เลยว่าเจ็บปวดขนาดไหน
นอกจากนี้ นางยุคล ยังบอกด้วยว่า ก่อนลูกจะเสียชีวิต เขาบอกว่าอยากเป็นทหาร ช่วยครอบครัวทำงาน และทางครอบครัวก็มีเงินเก็บไม่เคยขัดสนเรื่องเงินทอง แต่พอลูกจากไป ตนก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร เงินเก็บที่เคยมีก็หมด ซ้ำเป็นหนี้เพราะกู้เงินมาลงทุนเกือบ 1 ล้านบาท แต่ในเมื่อยังมีลูกอีก 2 คน ตนกับสามีจึงต้องลุกขึ้นสู้ เพราะถ้าไม่สู้ ลูกอีก 2 คนก็ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงต้องฮึดสู้กันใหม่
ส่วนเรื่องการเยียวยา ครอบครัวได้รับจากหน่วยงานราชการ จำนวน 100,000 บาท และได้รับเงินประกันจากทางโรงเรียนของลูกชาย 50,000 บาท
ส่วนเรื่องการยกเลิกโทษประหาร มองว่า โทษประหารมีมาตั้งนานแล้วก็ไม่ควรยกเลิก หากประเทศไทยขาดโทษประหาร จะขาดความมั่นคง ขาดความน่าเชื่อถือ และจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ส่วนคนร้ายที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่ก็ไม่เคยมาแจ้งเบาะแส บอกแค่ว่าให้ทางเราไปหาหลักฐานมา หาข้อมูลมา วอนให้ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายที่เหลือให้ครบด้วย
ข้อมูลจาก Workpoint