อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีจากกรณี กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลด้วยการประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชาย “ธีรศักดิ์” (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.55 เหตุเกิดที่จังหวัดตรัง นักโทษเด็ดขาดดังกล่าวได้ทำร้ายและบังคับให้เอาทรัพย์สิน คือ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งใช้มีดแทงผู้ตาย รวม 24 แผล เป็นเหตุให้เหยื่อถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาพิพากษายืนเป็นผลให้คดีถึงที่สุด ซึ่งเป็นการลงโทษประหารชีวิตครั้งแรกในรอบ 9 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประหารกรณีดังกล่าว มีขั้นตอนต่างๆ ซึ่งได้รับการเปิดเผยต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว “นช.ธีรศักดิ์” จากแดนคุมขังภายในเรือนจำกลางบางขวาง เพื่อแจ้งผลฎีกาของ “นช.ธีรศักดิ์” ซึ่งคณะกรรมการประกอบด้วย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง เป็นประธานกรรมการ เจ้าพนักงานเรือนจำระดับหัวหน้าฝ่ายแพทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี หรือผู้แทน ผู้กำกับการสถานีตำรวจ ร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย โดยกรมราชทัณฑ์จัดผู้แทนไปดูแลความเรียบร้อยในการประหารชีวิต ก่อนนำตัวไปที่ศาลาเย็นใจเพื่อสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายกับญาติ จากนั้นเข้าสู่แดนหมดทุกข์ มีเพชฌฆาตทั้งสิ้น 3 คนทำการฉีดยา 3 เข็ม ได้แก่ ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ และยาหยุดการเต้นของหัวใจ โดยที่เพชฌฆาตแต่ละคนจะไม่รู้ว่ายาที่ตัวเองนำไปฉีดคือยาอะไร จากนั้นแพทย์จะเข้าวินิจฉัยว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่
ทั้งนี้ พบว่า มีการเผยแพร่ภาพจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ “นายอรรถยุทธ พวงสุวรรณ” เจ้าพนักงานอบรมและฝึกวิชาชีพ ชำนาญงาน ได้เผยแพร่การตั้งเครื่องเซ่น เพื่อทำพิธี พร้อมกับบทสวดมนต์ และโพสต์ว่า “สิ่งที่พวกกระผมทำในวันนี้ มิมีเจตนาที่จะกระทำ เป็นการกระทำตามหน้าที่ ขอได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่พวกข้าพเจ้าด้วย สาธุ”