เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อเวลา 14.00 น วันที่ 17 มิถุนายน 2561 ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลภาคใต้ตอนบน กรมประมง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเรือนำเที่ยวชื่อ “พรวารี” ล่มกลางทะเลบริเวณเกาะง่ามและเกาะทะลุ อ.เมือง จ.ชุมพร ระหว่างเดินทางกลับเข้าสู่ฝั่ง เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าชุมพร พร้อมเรือตรวจประมงทะเลของศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลภาคใต้ตอนบน และเรือของสำนักงานอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ได้ส่งหน่วยเรือช่วยเหลือ กระจายกำลังตามหาเรือลำที่ประสบเหตุ ในเวลา 16.00 น. พบเรือลำดังกล่าวที่จมอยู่บริเวณหัวเกาะทะลุ มีผู้ประสบเหตุมีทั้งหมด 13 ราย เป็นนักท่องเที่ยว 11 ราย เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนักท่องเที่ยว 1 ราย กัปตันคนขับเรือ 1 ราย ทั้งหมดปลอดภัย ได้รับการช่วยเหลือจากเรือตรวจประมงทะเล 324 จากสอบถามพนักงานประจำเรือได้การว่า ขณะที่ปล่อยให้นักดำน้ำลงไปดำน้ำลงทะเล ได้มีเรือประมงอวนดำ ขนาดใหญ่สีขาวแดง คาดว่าเป็นเรือจาก มหาชัย สมุทรสาคร พุ่งตรงเข้ามา ที่เรือนำเที่ยว กัปตันได้สั่งปลดเชือกและถอยหลบ

โดยเรือประมงลำดังกล่าว ได้พุ่งชนเกยกับโขดหิน บริเวณด้านหน้าของเกาะง่ามน้อย ส่วนเรือท่องเที่ยวหลังจากที่ถอยหลบจากการชน ได้เวียนไปรับกลุ่มนักดำน้ำในอีกจุดหนึ่งที่กำลังเดินทางกลับ ขณะที่วันนี้มีน้ำลดมากกว่าปกติ ทำให้การเดินทางกลับต้องใช้ดาวเทียมเป็นตัวช่วยนำทางเป็นหลัก แต่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเรือท่องเที่ยวชนกับหินโสโครกใต้น้ำ ผ่านไปเพียง 10 นาทีน้ำทะเลก็เริ่มไหลเข้าท่วมห้องเครื่อง ผู้ดูแลได้รีบบอกนักท่องเที่ยวให้เก็บสิ่งของเตรียมสละเรือให้สวมเสื้อชูชีพไว้ทุกคน นักท่องเที่ยวทั้ง 11 ราย ได้เก็บสัมภาระเท่าที่จะเก็บได้และสวมเสื้อชูชีพ พร้อมกระโดดลงจากเรือ เคราะห์ดีที่นักท่องเที่ยวเป็นนักดำน้ำอยู่แล้ว จึงกระโดดลงจากเรือไปลอยคออยู่ในน้ำ จนกระทั่งทีมช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือทั้งนักดำน้ำ กัปตัน และลูกเรือ ทั้งหมด 13 รายปลอดภัย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นายปณัย หนูแท้ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรือท่องเที่ยวได้นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำ บริเวณเกาะง่าม และไปชนกับโขดหินบริเวณเกาะ ทำให้เรือรั่ว จึงรีบนำเรือกลับเข้าฝั่งแต่ไม่ทันจมลงในทะเล แต่ทีมช่วยเหลือที่มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที  ส่วนนักท่องเที่ยวแสดงความรู้สึกพอใจกับการช่วยเหลือจาก เจ้าของเรือท่องเที่ยว ที่ประสานหน่วยงานช่วยเหลือของทางราชการได้อย่างรวดเร็ว