เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาทำการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านเรือนแล้วมีการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างซึ่งมีราคาสูงกว่าท้องตลาด โดยเลือกเน้นเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่เพียงลำพังซึ่งอาจจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน

 


จากการตรวจสอบบ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 1 ตำบลดอนใหญ่ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยนายเทิดศักดิ์ ลูกชายเจ้าของบ้านเผยว่า เมื่อช่วงหลายวันก่อนมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงและในวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะทำงานอยู่ นางกุล อายุ 55 ปี ผู้เป็นแม่ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามว่ามีช่างของการไฟฟ้าเดินทางมาที่บ้านเพื่อขอตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยอ้างว่าก่อนหน้านั้นมีการทำหนังสือขอความร่วมมือประกาศเสียงตามสายจากทางผู้ใหญ่บ้านแจ้งให้ชาวบ้านทราบแล้ว


นายเทิดศักดิ์จึงขอพูดสายกับช่างที่มาทำการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เมื่อสอบถามว่าหน่วยงานใดก็บอกเพียงเป็นช่างของบริษัท ได้รับคำสั่งจากการไฟฟ้าให้มาตรวจสอบ พอถามมากขึ้นช่างก็ทำทีเป็นไม่ได้ยินแล้วตัดสายไป ตนจึงได้กำชับผู้เป็นแม่ว่าถ้าช่างจะเปลี่ยนอะไรห้ามเปลี่ยนโดยเด็ดขาด หลังจากนั้นช่างชุดนี้จึงเดินทางกลับไป แต่ปรากฏว่ามีช่างอีกชุดเดินทางมาในลักษณะเดียวกันแต่ช่างชุดนี้ใช้คำพูดหว่านล้อมให้แม่ของตนติดตั้งอุปกรณ์ช่วยในการประหยัดค่าไฟและเครื่องป้องกันไฟช็อตในราคา 7,500 บาท ซึ่งแม่ของตนเองก็ได้หลงเชื่อติดตั้งพร้อมทั้งจ่ายเงินให้กับช่างชุดดังกล่าวกว่าตนจะรู้ก็เมื่อเลิกงานกลับมาถึงบ้านแล้ว

 


จากนั้นตนได้โทรศัพท์ตรวจสอบกับพนักงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอคง จึงทราบว่าอุปกรณ์ที่ติดให้เป็นเพียงเครื่องตัดกระแสไฟฟ้าซึ่งช่างชุดดังกล่าวคงไม่รู้ว่าตนไม่ได้มีการใช้งานไฟฟ้าบนชั้น 2 แล้ว จึงย้ายเบรกเกอร์ไฟมาไว้ที่ชั้นล่าง ดังนั้นการที่มาติดตั้งตัวตัดกระแสไฟที่ชั้น 2 จึงไม่รู้ว่าจะติดไว้เพื่ออะไร หลังจากนั้นมีการโทรศัพท์ติดต่อขอคืนอุปกรณ์แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้แล้ว และเมื่อสอบถามจากเพื่อนบ้านพบว่ามีชาวบ้านโดนหลอกในลักษณะเดียวกันอีกเป็นจำนวนมากโดยมีการกรีดสายไฟให้ชำรุดแล้วแจ้งว่าหนูกัดสายจนเห็นเส้นลวดทองแดง เสี่ยงเกิดไฟไหม้บ้านต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ซึ่งเป็นการเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คง เพื่อให้ตำรวจตามตัวมิจฉาชีพกลุ่มนี้มาดำเนินคดีเพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอีก

จากการสอบถามนายพิชัย ตติยสุขพร พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอคง เปิดเผยว่า หลังได้รับเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของผู้เสียหาย ปรากฏว่าเจอกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว จึงทำการสอบถามพร้อมทั้งบันทึกภาพเอาไว้ แต่เมื่อกลุ่มมิจฉาชีพเห็นจึงไม่พอใจ แล้วได้เรียกพวกเข้ามาเพิ่มอีกหลายสิบคนเข้ามาคุกคาม ขู่ให้ลบภาพ และอ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการไฟฟ้าแต่อย่างใด จากนั้นได้รีบขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
นายพิชัยได้ฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่างหลงเชื่อบุคคลที่มาแอบอ้างเป็นพนักงานของการไฟฟ้าฯ ซึ่งพนักงานของการไฟฟ้าจะดูแลในส่วนของสายส่งไม่ได้ครอบคลุมดูแลถึงในส่วนบ้านเรือนของชาวบ้านซึ่งพนักงานของการไฟฟ้าจะเป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำแต่ไม่สามารถดำเนินการเปลี่ยนได้ ซึ่งหากมีกลุ่มคนมาแอบอ้างในลักษณะนี้ให้สงสัยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ อย่างไรก็ตามถ้าประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการร้องเรียนสามารถโทรสอบถามศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า 1129 PEA Call Center หรือหากพบมิจฉาชีพมาให้บริการในลักษณะดังกล่าวควรแจ้งตำรวจในพื้นที่มาตรวจสอบทันที