เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีกรณีศาลปกครองสูงสุดพิพากษาตัดสินคดีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเผาทำลายบ้านเรือนชุมชนของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยบน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างให้ฝ่ายกฎหมายของกรมอุทยานฯ คัดสำเนาคำตัดสินฉบับสมบูรณ์ของศาลมาพิจารณา
โดยเบื้องต้น เรื่องที่ว่าเจ้าหน้าที่มีการละเมิดหรือทำเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาสอบสวนต่อไป ส่วนการจ่ายเงินชดเชยนั้นจะมีการวางเงินชดเชยให้ศาลปกครองภายใน 30 วัน หลังศาลมีคำตัดสิน พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการที่กรมอุทยานฯ แพ้คดี เพราะศาลไม่ให้กลุ่มคนดังกล่าวกลับเข้าไปใช้พื้นที่อุทยานฯอีก
ซึ่งหมายความว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย แต่อาจผิดขั้นตอนที่ไม่ได้มีการปิดประกาศแจ้งเตือนก่อน ซึ่งในช่วงที่ดำเนินการนั้นไม่พบตัวบุคคล ส่วนการจ่ายเงินชดเชยก็เป็นการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม
นายธัญญา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่มีการแจ้งความเรื่องการบุกรุกไว้แล้ว แต่ขณะนั้นไม่พบตัวผู้กระทำความผิด จนเรื่องเข้าสู่กระบวนการของศาลปกครอง และศาลมีคำพิพากษาออกมาว่าห้ามกลุ่มบุคคลดังกล่าวกลับเข้าไปใช้พื้นที่ เมื่อปรากฏตัวบุคคล (ปู่คออี้ และผู้ฟ้องคดี รวมทั้งหมด 6 คน) ออกมาจึงต้องให้เจ้าหน้าที่ไปดูข้อกฎหมายและคำพิพากษาศาลของศาลปกครองสูงสุดอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีในคดีบุกรุกป่าอีกหรือไม่
แต่ต้องคำนึงถึงคำสั่ง คสช.ที่ 64 และ 66/2557 ในเรื่องการดำเนินคดีบุกรุกป่ากับผู้ยากไร้ที่อยู่ในพื้นที่มาก่อนมีประกาศ แต่ยืนยันว่ากรมจะยึดถือกฎหมายเป็นหลัก ไม่ยึดตามกระแสสังคมแน่นอน ทั้งนี้เขาอ้างว่าอยู่มาก่อน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆ ที่จะพิสูจน์ว่าอยู่มาก่อนได้ ส่วนที่ระบุว่ามีชุมชนตั้งอยู่มา 100 กว่าปี เรื่องนี้พิสูจน์ได้ด้วยภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งเมื่อตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยการทำกินมาก่อน