เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สิ้นสุดการรอคอย เจ้าภาพ รัสเซีย พร้อมรบเต็มที่ในเกมนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2018 โดยสามารถจัดทีมชุดเก่งลงสนามได้ นำทัพโดย ฟิโอดอร์ สโมลอฟ และจอมเก๋าอย่าง อเล็กซานเตอร์ ซาเมดอฟ และ ยูริ ชีร์คอฟ ในการพบกับทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ที่พร้อมส่งชุดใหญ่ลงเล่นเช่นกัน โดยมี ฟาฮัด อัล-มูวัลลาด หัวหอกตัวเป้าเป็นความหวังของทีมในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย นัดเปิดสนามกลุ่ม เอ วันพฤหัสที่ 14 มิ.ย. นี้ เวลา 22.00 น.

รัสเซีย ชาติเจ้าภาพของเทรนเนอร์ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ พาทีมทำผลงานได้น่าผิดหวังมากในช่วงอุ่นเครื่อง 4 นัด ก่อนที่จะลงเตะนัดเปิดสนามนี้โดยไม่ชนะใครเลย แถมยังแพ้ไปถึง 3 นัดอีกต่างหาก แต่ยังดีที่สภาพทีมในเกมนี้จัดว่าพร้อม เนื่องจากขุมกำลังหลักต่างพร้อมลงสนามได้ทั้งหมด

 

 

นำโดยดาวยิงตัวความหวังของทีมอย่าง ฟิโอดอร์ สโมลอฟ หัวหอกจากคราสโนดาร์ เจ้าของผลงานยิง 12 ประตู จากการลงรับใช้ชาติ 32 นัด ที่จะได้ลงมาประสานงานร่วมกับ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน และ อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ ในแนวรุก โดยมี อิกอร์ อาคินเฟเยฟ นายทวารกัปตันทีมเป็นหัวใจในแนวรับ ร่วมด้วยปราการหลังมากประสบการณ์อย่าง เซอร์เก อิกนาเชวิช เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 38 ปี กับ ยูริ ชีร์คอฟ วิงแบ็กจอมเก๋าวัย 34 ที่จะได้ลงเล่นเป็นแกนหลักของทีมในนัดเปิดสนามนี้ทั้งหมด

 

 

ซาอุดีอาระเบีย ของ ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของทีมชาติพาทีมแพ้เยอรมัน 1-2 ในเกมอุ่นเครื่องล่าสุด เป็นการแพ้ 3 นัดติด สภาพทีมสำหรับนัดเปิดสนามเกมนี้ปิซซี่ไม่มีปัญหาใดๆ รบกวน พร้อมจัดทีมชุดที่ดีที่สุดลงบู๊กับเจ้าภาพ โดยต้องฝากความหวังในเกมรุกไว้ที่ ซาเล็ม อัล-ดาวซารี่ และ ฟาฮัด อัล-มูวัลลาด 2 แข้งความเร็วสูงที่มีประสบการณ์ค้าแข้งในลา ลีกา สเปน กับบียาร์เรอัลและเล บันเต้ตามลำดับ

 

 

ซาอุดีอาระเบียจะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 โดยมี อับดุลลาห์ อัล-มายูฟ ลงเฝ้าเสา แนวรับประกอบไปด้วย โมฮัมเหม็ด อัล-บูรายัค, โอมาร์ ฮาวซาวี่, โอซาม่า ฮาวซาวี่ และ ยาซีร์ อัล-ชาห์รานี่ แดนกลาง ซัลมาน อัล-ฟาราจ จะคุมเกมร่วมกับ อับดุลลาห์ โอเตฟ ส่วน ซาเล็ม อัล-ดาวซารี่, ไตเซียร์ อัล-ยาสซาม และ ยาห์ย่า อัล-เชห์รี่ จะทำเกมรุกข้างหลัง ฟาฮัด อัล-มูวัลลาด ที่รับบทหอกเป้า

 

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

รัสเซีย : อิกอร์ อาคินเฟเยฟ – มาริโอ แฟร์นานเดส, วลาดิเมียร์ กรานาต, เซอร์เก อิกนาเชวิช, ฟิโอดอร์ คูเดรียชอฟ – โรมัน ซอบนิน – อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, ดาเลอร์ คูเซียเยฟ, ยูริ ชีร์คอฟ – ฟิโอดอร์ สโมลอฟ

 

ซาอุดีอาระเบีย : อับดุลลาห์ อัล-มายูฟ – โมฮัมเหม็ด อัล-บูรายัค, โอมาร์ ฮาวซาวี่, โอซาม่า ฮาวซาวี่, ยาสซีร์ อัล-ชาห์รานี่ – ซัลมาน อัล-ฟาราจ, อับดุลลาห์ โอเตฟ – ซาเล็ม อัล-ดาวซารี่, ไตเซียร์ อัล-ยาสซาม, ยาห์ย่า อัล-เชห์รี่ – ฟาฮัด อัล-มูวัลลาด

 

ข้อมูลที่น่าสนใจก่อนเกม

– รัสเซียเอาชนะใครไม่ได้เลยตลอดการเล่นเกมอุ่นเครื่อง 7 นัดล่าสุด แบ่งเป็นเสมอ 3 แพ้ 4

– ครั้งสุดท้ายที่ทีมหมีขาวเอาชนะคู่แข่งได้ต้องย้อนกลับไปถึงเดือนตุลาคม 2017 ที่พวกเขาเปิดบ้านอัดเกาหลีใต้ 4-2 ในเกมกระชับมิตร

– ซาอุดีอาระเบียแพ้มาสามเกมรวดในแมตช์อุ่นเครื่องต่อทั้ง อิตาลี, เปรู และเยอรมัน

– ตลอดการลงเตะฟุตบอลโลก 4 เกมหลังสุดของรัสเซีย ปรากฏว่ามีสกอร์รวมเกิดขึ้นไม่เคยเกิน 2.5 ลูกเลย

– ทีมหมีขาวชุดนี้ใช้นักเตะที่ค้าแข้งอยู่นอกประเทศตัวเองแค่ 2 คนเท่านั้น นั่นคือ เดนิส เชอรีเชฟ (บียาร์เรอัล) กับ วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ (คลับ บรูช)

– 3 แข้งซาอุดีอาระเบียอย่าง ยาห์ย่า อัล-เชรี่ (เลกาเนส), ซาเล็ม อัล-ดาวซารี่ (บียาร์เรอัล) และ ฟาฮัด อัล-มูวัลลัด (เลบันเต้) ล้วนเคยมีประสบการณ์เดินทางมาอยู่กับทีมในยุโรปกันทั้งสิ้น