เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณพุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง จ.อำนาจเจริญ ได้มีการจัดแข่งขันวิ่งมินิมาราธอน “อำนาจเจริญมินิมาราธอน ครั้งที่ 2” โดยมีเหล่าบรรดานักวิ่งจากทั่วประเทศ นับพันคนเข้าร่วมรายการดังกล่าว
แต่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์น่าสลดเกิดขึ้น เมื่อ นายเพชรบุรี อายุ 45 ปี ชาว อ.กุดชุม จ.ยโสธร ที่เข้าร่วมวิ่งในรุ่นมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร หลังจากที่ได้มีการปล่อยตัวและนักวิ่งวิ่งไปได้ระยะทาง 2 กิโลเมตร นักวิ่งคนดังกล่าวเกิดอาการวูบและล้มลง ก่อนจะมีรถฉุกเฉินจากทางโรงพยาบาลอำนาจเจริญมารับตัวนักวิ่งคนดังกล่าว เพื่อนำส่งโรงพยาบาล แต่นักวิ่งคนดังกล่าวได้เสียชีวิตลง
นพ.พงษ์วิทย์ วัชรกิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 06.00 น. ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ ได้รับแจ้ง ผ่านทางโทรศัพท์ 1669 ว่ามีนักวิ่งเกิดวูบหมดสติ และมีอาการชักเกร็ง โรงพยาบาลอำนาจเจริญ จึงได้ส่งรถฉุกเฉินออกไปรับนักวิ่งคนดังกล่าว
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงนักวิ่งคนดังกล่าวก็หมดสติและหยุดหายใจแล้ว จึงพยายามทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ขณะที่นำตัวส่งกลับมาที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ แต่ก็ไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตของนักวิ่งคนดังกล่าวไว้ได้
เบื้องต้นทีมแพทย์ได้ลงความเห็นถึงการชีวิตในครั้งนี้ว่าเกิดจากการที่หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งคาดว่าอาจจะเกิดจากการที่นักวิ่งพักผ่อนไม่เพียงพอ และหักโหมร่างกายมากเกินไป ทำให้ร่างกายไม่อยู่ในสภาพที่จะพร้อมลงแข่งขันได้ และนำไปสู่การทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ เกิดหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและเสียชีวิตในที่สุด
นายสุดสงวน อายุ 46 ปี เพื่อนที่มาร่วมวิ่งกับผู้ตายในครั้งนี้ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนวิ่งเข้าเส้นชัยแล้ว ตนก็ได้ทราบข่าวว่าเพื่อนเกิดอาการวูบหมดสติขณะวิ่ง จึงได้รีบมาดู แต่ก็พบว่าเสียชีวิตลงแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าเพื่อนสุขภาพแข็งแรงดี ไม่สูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้าแต่อย่างใด
อีกทั้งก่อนหน้านี้ตนกับเพื่อนก็เคยลงแข่งวิ่งมาหลายรายการแล้ว ก่อนที่จะมาลงรายการวิ่งครั้งนี้ และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาก็เพิ่งไปร่วมรายการวิ่งที่ จ.อุบลราชธานี แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร หรือมีอะไรที่จะต้องทำให้เสียชีวิตเหมือนครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันต่างก็วิพากษ์วิจารณ์จากนักวิ่งที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ว่า เนื่องจากไม่เหมือนกับครั้งแรกที่ผ่านมา เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจเช็คร่างกาย ความดันโลหิตของนักวิ่ง เพื่อเช็คสภาพความพร้อมของนักวิ่งก่อนทำการแข่งขัน
อีกทั้งจุดปฐมพยาบาลระหว่างทางที่วิ่งก็มีไม่เพียงพอ รวมไปถึงรถฉุกเฉินที่วิ่งตามหลังนักวิ่ง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ไม่มีเหมือนครั้งที่ผ่านมา ทำให้การเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลนักวิ่งเป็นไปด้วยความล่าช้าและไม่ทันการ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางผู้จัดงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแข่งขันมินิมาราธอนในครั้งนี้ก็ยังไม่ใครออกมาเปิดเผยข้อมูลใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้