เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ต.ค. 60 จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดลำปางมาหลายวัน ส่งผลให้ในหลายพื้นที่ในจังหวัดลำปางเกิดน้ำท่วม ล่าสุด ในเขต ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ชาวบ้านม้าเหนือ หมู่ที่ 6, บ้านม้าใต้ หมู่ที่ 9 และ บ้านม้ากลาง หมู่ที่ 13 ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินไว้ในที่สูง เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในที่ลุ่มต่ำ และใกล้ลำห้วยแม่ตาลน้อย ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 10-50 เซนติเมตร
นอกจากนี้ น้ำยังขยายวงกว้างท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร บางส่วน คือ บ้านทุ่งบ่อแป้น หมู่ที่ 2 ต.ปงยางคก, บ้านแม่ฮาว หมู่ที่ 2 ต.ห้างฉัตร และบ้านห้วยฮุง หมู่ที่ 1 ต.หนองหล่ม ซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชน ถูกน้ำท่วมกว่า 80 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำมีความสูงตั้งแต่ 20–50 เซนติเมตร บางจุดรถจักรยานยนต์ไม่สามารถแล่นผ่านได้ และระดับน้ำยังคงทรงตัว และมีแนวโน้วเริ่มจะลดลงบ้าง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังหากว่าฝนตกลงมาเพิ่มอีก
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ นายอำเภอห้างฉัตร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ อำเภอห้างฉัตร เพื่อทำการสำรวจตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฝายกักเก็บน้ำสาธารณะ ‘ฝายห้วยเรียน’ หลังพบว่าตัวฝายได้ถูกน้ำกัดเซาะจนขาดช่วงกลางของตัวฝายมาแล้วหลายวัน รวมถึงบริเวณแนวฝั่งตลิ่ง ถูกน้ำพัดพังถล่มเป็นบริเวณกว้าง ทำให้เมื่อมวลน้ำไหลมาก็จะไหลไปลำห้วยสาขาทันที ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ติดลำห้วยดังกล่าวถูกน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อน
สำหรับ ฝายห้วยเรียน เป็นฝายกักเก็บน้ำที่ได้ออกแบบการก่อสร้างมาด้วยการใช้ดินเหนียวอัดทับเป็นแกนกลาง และปูทับด้านนอกด้วยปูนซิเมนต์เสริมเหล็ก ส่วนใหญ่ฝายลักษณะดังกล่าวจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี ซึ่งฝายห้วยเรียนได้ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2548 ใช้งานมานานกว่า 12 ปี วัสดุต่างๆ จึงเสื่อมสภาพและหมดอายุการใช้งานไปตามกาลเวลา หากจะใช้แบบการก่อสร้างในลักษณะเดิมก็จะใช้งบประมาณราว 1.5–2 ล้านบาท แต่หากต้องการใช้แบบการก่อสร้างใหม่ก็จะใช้งบประมาณที่สูงกว่านี้
ที่มา – ไทยรัฐ