ยังขยายผลต่อเนื่องกับการตามจับตัวอดีตพระพรหมเมธี พล.ต.ต.กิตติกร บุญสม ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 (ผบก.ตม.4) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ภาค 4 (บก.ตม.4) ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่รับผิดชอบหน้าที่ดูแลตรวจสอบบุคคลเข้าออก บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 นครพนม–คำม่วน ตำแหน่งรองสารวัตร 2 คน ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ เนื่องจากมีการตรวจสอบข้อมูลพบว่า อดีตพระพรหมเมธี ได้หลบหนีออกทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 ในช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. 61
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า มีการละเว้นขั้นตอนปฏิบัติระหว่างทำงานบริเวณจุดตรวจดังกล่าวจริง คือมีการตรวจสอบแค่ในส่วนของเอกสาร แต่ไม่ได้ตรวจค้นรถที่ผ่านเข้า-ออก ซึ่งล่าสุดทางบก.ตม.4 กำลังดำเนินการส่งเรื่องต่อไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อให้พิจารณาอนุมัติคำสั่งลงโทษ
แต่ต้องรอตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนจากกองปราบปรามและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างละเอียดอีกครั้งว่า เส้นทางที่ อดีตพระพรหมเมธี หรือ พระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ใช้ในการหลบหนีแท้จริงแล้ว คือผ่านทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 หรือว่าเส้นทางธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทางบก.ตม.4 ได้เสนอให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน มีความผิดเบื้องต้น คือ ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ แต่หากสืบสวนแล้วพบว่าเส้นทางที่ พระจำนงค์ ใช้หลบหนีไปได้คือจุดตรวจดังกล่าว ก็อาจจะเพิ่มบทลงโทษที่ร้ายแรงขึ้นเพราะสิ่งที่เกิดคือการปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีออกไปได้