จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการอนุมัติโครงการก่อสร้างแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งทั่วประเทศ และกรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีอนุมัติก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลังเป็นวงเงินกว่า 5,848 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า องค์คณะไต่สวน (มีกรรมการ ป.ป.ช. 9 ราย เป็นองค์คณะ) ประชุมพิจารณาความคืบหน้าสำนวนทั้ง 2 คดี โดยเป็นการประชุมเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าว่าจะสรุปสำนวนเพื่อเสนอเป็นวาระประชุมเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้หรือไม่
ทั้งนี้ผลการประชุมขององค์คณะไต่สวน พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า ทั้ง 2 สำนวนยังไม่มีความสมบูรณ์เพียงพอที่จะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ จึงมีมติให้องค์คณะไต่สวนดำเนินการไต่สวนเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา นอกจากนี้ยังได้พิจารณาตรวจดูบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมด้วย
กรณีการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. รับเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ปี 2556 โดยกล่าวหานายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ กรณีกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) ในการดำเนินโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง วงเงิน 5,848 ล้านบาท ที่มีเอกชนรายหนึ่งเป็นผู้รับจ้างเมื่อปี 2554 โดยยกเลิกแนวทางการจัดจ้างแบบแยกการเสนอราคา เป็นรายภาค และอนุมัติให้ดำเนินการจัดจ้างรวมการก่อสร้างเป็นแบบสัญญาเดียว อันเป็นการกีดกันและเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาร้องเรียนนายตำรวจระดับสูงเกี่ยวกับการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนด้วยอีกสำนวนหนึ่ง สำนักงาน ป.ป.ช. รับเรื่องร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2556 เช่นกัน กรณีกล่าวหา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง รวมถึงคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงกรก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง ของตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ด้วย
โดยระบุข้อกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการดำเนินโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลังในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ วงเงินค่าก่อสร้างรวม 5,848 ล้านบาท ที่มีเอกชนรายหนึ่งเป็นผู้รับจ้างเมื่อปี 2554 เนื่องจากมีกำหนดเสร็จในปี 2555 แต่ผู้ถูกกล่าวหาได้ขยายเวลาสัญญาดังกล่าวในครั้งที่ 2 เป็นจำนวน 180 วัน และครั้งที่ 3 จำนวน 60 วัน โดยครบกำหนดส่งมอบงานในปี 2556 ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2555 อีกทั้ง ผบ.ตร. ละเว้นไม่พิจารณาใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาในกรณีมีเหตุอันเชื่อได้ว่าผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายร้ายแรงด้วย
ทั้งนี้ เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาคดีกล่าวหา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กับพวก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว