วันที่ 5 มิ.ย. “น.ส.นฤมล ดีวุฒิ” พลเมืองดี ได้พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ชาวอ.เมือง จ.น่าน พร้อมด้วยลูกสาววัย 5 ปี และแม่ที่ชรา เข้าร้องเรียนที่กรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน หลังลูกสาว 5 ขวบ ถูกผู้เป็นตาข่มขืน และได้แจ้งความไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.60 ผ่านไป 6 เดือนคดีไม่คืบหน้า
“น.ส.นฤมล” เปิดเผยว่า น.ส.เอ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสมอง ขณะที่มารับจ้างล้างเครื่องกรองน้ำที่บ้านและขอข้าวกิน ตนรู้สึกสงสารจึงสอบถามความเป็นอยู่ที่บ้าน ซึ่ง น.ส.เอ ได้เล่าให้ฟังว่าอยู่กินกับชายชาวไนจีเรีย และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน แต่สามีถูกจับในข้อหาต่างด้าวถูกกลับส่งประเทศ ทำให้ต้องเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว ขณะที่แม่ก็มีอายุมากต้องออกรับแจ้งหางานทำ โดยมีตา กับ ยายเลี้ยงลูกสาวอยู่ที่บ้านให้ แต่ปรากฏพบว่าผู้เป็นตา ข่นใจลูกสาวตน เมื่อยายกลับเข้าบ้านมาเห็นจนเกิดปากเสียง และตาได้หนีออกบ้านหายไป จึงได้พากันไปแจ้งความที่ สภ.เรือง ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.60 และผ่านไปนานหลายเดือนคดีไม่คืบหน้า ยังจับผู้ต้องหาไม่ได้ รวมทั้งไม่มีการช่วยเหลือเด็กและครอบครัว
ด้าน “นายปิยพงษ์ กันทะกาลัง” นักสังคมสงเคราะห์ พมจ.น่าน หลังรับเรื่องได้ช่วยเหลือเบื้องต้นเงินสงเคราะห์ 2 พันบาท พร้อมติดตามไปสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติเงิน 5 หมื่นบาท ช่วยเหลือเด็กผู้ถูกละเมิดทางเพศ แต่ติดขัดล่าช้าเนื่องจากเอกสารผิด ส่งกลับมาให้ทางครอบครัวผู้เสียหายแก้ไข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสารคาดว่าไม่เกินเดือน ส.ค.61 จะได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือ พร้อมกับส่งให้ทางศูนย์บริการคนพิการ แนะนำเรื่องสิทธิต่างๆ ของแม่ซึ่งเป็นผู้พิการ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือด้านอาชีพ และความเป็นอยู่ต่างๆ ต่อไป ส่วนด้านคดีอยู่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งขณะนี้ออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป